นายประเสริฐ จึงกิจรุ่งโรจน์ ประธานหอการค้าจังหวัดตาก กล่าวถึงการค้าชายแดนไทย-เมียนมา ผ่านด่านพรมแดนแม่สอด-เมียวดี ในช่วงครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย) พ.ศ. 2564 ว่า การค้าชายแดนผ่านด่านศุลกากรแม่สอด-เมียวดี ยังคงเดินหน้าไปได้ด้วยดี
แม้ต้องประสบปัญหาหลากหลาย ทั้งปัญหาการเมืองภายในของเมียนมา และการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ด่านพรมแดนแม่สอดยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะมีปัจจัยบวกจากที่ด่านชายแดนจีน-เมียนมาปิด ทำให้การส่งออก-นำเข้าสินค้าหันมางทางด่านแม่สอดมากขึ้น
“แม้ตัวเลขจะไม่ดีเหมือนช่วงเหตุการณ์ปกติ แต่ถือว่าการค้าชายแดนของเรายังเดินไปได้ โดยในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม มูลค่าการค้าเพิ่มขึ้นอย่างดีมาก และต่อเนื่องถึงเดือนมิถุนายน ก่อนเข้าฤดูฝนด้วย
และเชื่อมั่นว่า มูลค่าการค้าชายแดนในช่วงครึ่งปีหลัง 2564 ก็จะไม่ส่งผลกระทบมากนัก ระดับน่าจะใกล้เคียงกับช่วงครึ่งปีแรกนี้”
ประธานหอการค้าจังหวัดตากกล่าวอีกว่า ทั้งนี้เพราะพ่อค้าชายแดนด้านแม่สอดมีกระบวนการค้าที่ดี มีระบบและแนวคิดในการปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงอีกส่วนคือความอดทนต่อสถานการณ์ ทำให้ประคองตัวไปในแนวทางที่ดี
ส่วนปัญหาเรื่องโควิด-19 นั้นเป็นเรื่องภายในประเทศไม่กระทบต่อการส่งออกเลยรวมไปถึงค่าเงินจ๊าตเมียนมา ที่ตกตํ่าสุดในรอบหลายปี โดย 100 จ๊าตแลกเงินบาทไทยได้เพียง 1.90 บาท จากก่อนหน้านั้นค่าเงินจ๊าตไม่เคยตกลงมากกว่า 2 บาท ต่อ 100 จ๊าตเลย
“หากเมียนมาแก้ปัญหาการเมืองภายในได้ลงตัว จะทำให้การค้าชายแดนแม่สอด-เมียวดี กระเตื้องขึ้นเหมือนเดิม และหากรัฐบาลเมียนมาปลดล็อก ยกเลิกการกีดกันสินค้าบางประเภท 7-8 รายการที่ขณะนี้ห้ามนำเข้า ทางด่านชายแดนและให้ไปส่งออกทางท่าเรือนั้น จะยิ่งทำให้เพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนด่านพรมแดนแม่สอดขึ้นอีกเท่าตัว” ประธานหอการค้าจังหวัดตาก กล่าว
ทั้งนี้ การค้าชายแดนผ่านด่านแม่สอด เดือนพฤษภาคม 2564 มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 11,123.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จากเดือนเมษายน ที่มีมูลค่า 8,269.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,853.95 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 34.51 หรือหากเทียบกับพฤษภาคมปีที่แล้ว ที่มีมูลค่าการค้า 6,346.88 ล้านบาท จะเพิ่มถึง 4,776.74 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 75.26 และมูลค่าการค้าเดือนมิถุนายนก็ใกล้เคียงกับเดือนก่อนหน้า
ที่จังหวัดระนอง นางสาวทิพย์สุดา อินทรสุวรรณ พาณิชย์จังหวัดระนอง เปิดเผยว่า สถานการณ์การค้าชายแดนกับประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ด้านจังหวัดระนอง ประจำเดือนพฤษภาคม 2564 มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 2,573.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.11 ล้านบาท จากเดือนเมษายน 2564 ที่มีมูลค่าการค้ารวม 2,563.49 ล้านบาท
แบ่งเป็นการส่งออก 1,944.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 538.32 ล้านบาท นำเข้า 628.98 ล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อน 528.21 ล้านบาท ได้ดุลการค้า 1,315.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2564 จำนวน 1,066.53 ล้านบาท จากเดือนเมษายนที่เกินดุลการค้า 249.11 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโตการได้ดุลการค้าร้อยละ 428.14
สำหรับมูลค่าส่งออกสูงสุดสินค้า 5 อันดับแรกของจังหวัดระนองประกอบด้วย นํ้ามันเชื้อเพลิงและหล่อลื่น 341.57 ล้านบาท ปูนซีเมนต์ 230.72 ล้านบาท หลอดหรือท่อและท่ออ่อนทำด้วยยางวัลแคไนซ์ 171.33 ล้านบาท ข้อต่อเหล็ก 137.12 ล้านบาท และท่อผนังชนิดไร้ตะเข็บใช้ในขุดเจาะ 97.99 ล้านบาท
ส่วนมูลค่านำเข้าสินค้าสูงสุด 5 อันดับแรกของจังหวัดระนอง ได้แก่ ของทำด้วยเหล็ก 90.60 ล้านบาท ปลาป่น 83.71 ล้านบาท ส่วนประกอบที่ใช้สำหรับเครื่องจักร 34.57 ล้านบาท ข้อต่อเหล็ก 28.30 ล้านบาทอุปกรณ์และเครื่องอุปกรณ์สำหรับบังคับหรือควบคุมโดยอัตโนมัติ 21.32 ล้านบาท
นายนิตย์ อุ่ยเต็กเค่ง รองประธานหอการค้าจังหวัดระนอง เปิดเผยว่า ด่านชายแดนด้านระนองยังคงคึกคักอย่างต่อเนื่อง เหตุเพราะวิกฤติการเมืองเมียนมา ทำให้สินค้าในประเทศขาดแคลนและมีราคาสูงขึ้น ส่งผลให้พ่อค้าชายแดนสั่งสินค้าเพิ่มขึ้น ทำให้บรรยากาศการส่งออกสินค้าบริเวณชายแดนด้านจังหวัดระนองมีความคึกคักรถบรรทุกสินค้าต้องจอดเป็นแถวยาวรอคิวเข้าสู่ท่าเรือ เพื่อนำสินค้าลงเรือส่งไปยังเมียนมา
ขณะที่การแพร่ระบาดเชื้อโควิด- 19 ยิ่งเร่งทำคำสั่งซื้อจากเมียนมาเพิ่มเนื่องจากเกรงจะมีมาตรการควบคุมของไทย ที่อาจกระทบการขนส่ง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มาตรการด้านขนส่งสินค้ายังเป็นไปตามปกติ ทำให้การค้าชายแดนยังดำเนินต่อเนื่องไปได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งปูนซิเมนต์ ที่พบว่ามีออเดอร์เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม เพียงแต่อาจติดอุปสรรคเล็กน้อยในการลำเลียงลงเรือเพื่อไปยังฝั่งเมียนมา ที่มีขั้นตอนเพิ่มเติมตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,694 วันที่ 8-10 กรกฎาคม พ.ศ.2564