นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า เดือนมิ.ย.2564 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศ จำนวน 6,093 ราย เทียบกับพ.ค.2564 ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 9% และเทียบกับมิ.ย.2563 เพิ่มขึ้น 6% มีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 20,921.90 ล้านบาท
โดยประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้ารวมถึง คนโดยสาร ที่กลับเข้ามาติดอันดับที่ 3 เป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน
ส่วนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ มีจำนวน 1,048 ราย เทียบกับพ.ค.2564 เพิ่ม 32% และเทียบกับมิ.ย.2563 ลดลง 22% มีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 3,145.81 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการบริหารจัดการ
สำหรับยอดรวมธุรกิจตั้งใหม่ในช่วง 6 เดือนของปี 2564 (ม.ค.-มิ.ย.) มีจำนวน 41,022 ราย เพิ่มขึ้น 23% ทุนจดทะเบียน 133,208.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.38% ส่วนธุรกิจเลิกกิจการ 4,930 ราย ลดลง 20.83% ทุนจดทะเบียน 30,458.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16%
การเพิ่มขึ้นของจำนวนการจดทะเบียนนิติบุคคลจัดตั้งใหม่ และการลดลงของจำนวนการจดทะเบียนเลิกธุรกิจ มีผลมาจากปัจจัยหนุนด้านเศรษฐกิจ เช่น การฟื้นตัวของตัวเลขการส่งออกจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว และมาตรการการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐ ที่ทำให้คนมั่นใจกลับมาทำธุรกิจเพิ่มขึ้น แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างใกล้ชิด เพราะยังคงมีแนวโน้มกระจายเป็นวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและธุรกิจ และอาจส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการทั้งความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจและสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
อย่างไรก็ตาม จากการพิจารณาการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในช่วงครึ่งปี 2564 พบว่า มีธุรกิจที่มีการจดทะเบียนเพิ่มขึ้นตามสถานการณ์โควิด-19 เช่น ธุรกิจสร้างแม่ข่ายมีจำนวนจัดตั้งใหม่ทั้งสิ้น 262 ราย เพิ่มขึ้น 280% และธุรกิจปลูกพืชประเภทเครื่องเทศ เครื่องหอม ยารักษาโรค และพืชทางเภสัชภัณฑ์มีจำนวนจัดตั้งใหม่ทั้งสิ้น 112 รายเพิ่มขึ้น 100% รวมถึงนโยบายการผลักดันให้วิสาหกิจชุมชนจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลของภาครัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลให้การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจเพิ่มขึ้นด้วย
ปัจจุบัน มีธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น ณ วันที่ 30 มิ.ย.2564 จำนวน 803,794 ราย มูลค่าทุน 19.59 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 196,631 ราย คิดเป็น 24.46% บริษัทจำกัด จำนวน 605,864 ราย คิดเป็น 73.38% และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,299 ราย คิดเป็น 0.16% ตามลำดับ