มติครม.เคาะขสมก.กู้เงินเสริมสภาพคล่อง 7.8 พันล้าน

10 ส.ค. 2564 | 10:26 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ส.ค. 2564 | 17:34 น.

ครม.อนุมัติให้ขสมก.กู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน ประจำปีงบ 65 จำนวน 7,803  ล้านบาท เหตุขสมก.ขาดทุน หลังเก็บค่าโดยสารต่ำกว่าต้นทุน เผยหนี้ค้างชำระแตะ 1.27 แสนล้านบาท

น.ส.ไตรศุลี  ไตรสรณกุล  รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.)กู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน ประจำปีงบประมาณ 2565 จำนวน 7,803.718  ล้านบาท และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ กำหนดวิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่างๆในการกู้เงิน โดยกระทรวงคมนาคมรายงานว่า ขสมก.ประสบปัญหาการขาดสภาพคล่องทางการเงิน เนื่องจากผลประกอบการที่ขาดทุนและไม่ได้รับเงินชดเชยผลการขาดทุนตามจำนวนที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการที่ขสมก.เก็บค่าโดยสารตามอัตราที่ภาครัฐกำหนดซึ่งต่ำกว่าต้นทุนที่แท้จริง และไม่สามารถปรับอัตราค่าโดยสารเพิ่มขึ้นตามสภาวการณ์ปัจจุบันได้

สำหรับแผนฟื้นฟูกิจการขสมก.ฉบับปรับปรุงใหม่ อยู่ระหว่างการทบทวนตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีและยังไม่ได้รับความเห็นชอบจากครม. จึงทำให้ในปีงบประมาณ 2565 ขสมก.มีภาระที่ต้องชำระหนี้เงินกู้เดิมที่ครบกำหนดชำระ โดย ณ วันที่ 31 มกราคม 2564 ขสมก.มีหนี้สินค้างชำระรวมทั้งสิ้น 127,797.432 ล้านบาท

 

ขณะเดียวกันขสมก.ได้ทำประมาณการเงินสดรับ-จ่ายในปีงบประมาณ 2565 คาดว่าจะมีเงินสดคงเหลือปลายงวดขาดมือจำนวน 32,926.490 ล้านบาท ซึ่งไม่เพียงพอที่จะนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ดังนั้นขสมก.จึงมีความจำเป็นต้องกู้เงินจำนวน  32,926.490 ล้านบาท โดยส่วนหนึ่งจะนำไปชำระหนี้คืนเงินกู้เดิมที่ครบกำหนดชำระและไถ่ถอนพันธบัตรเงินกู้จำนวน 25,122.772 ล้านบาท

ทั้งนี้ขสมก.ได้เสนอสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ี(สบน.) เพื่อบรรจุเข้าแผนบริหารหนี้สาธารณะประจำปงบประมาณ 2565 แล้ว จึงคงเหลือเงินกู้เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงินและเป็นเงินสดหมุนเวียนในการดำเนินงานของขสมก.ในปีงบประมาณ 2565 จำนวน 7,803.718 ล้านบาท ตามที่เสนอให้ครม.อนุมัติ แยกเป็น ชำระค่าเชื้อเพลิง 2,867.033 ล้านบาท, ชำระค่าเหมาซ่อม 1,667.085 ล้านบาท และเสริมสภาพคล่องทางการเงิน 3,269.600 ล้านบาท  ซึ่งการกู้เงินของขสมก.ครั้งนี้จะทำให้ประหยัดค่าดอกเบี้ยค้างชำระได้ปีละ 232 ล้านบาท