สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 จังหวัดสมุทรสาครยังหนัก จากตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19รายใหม่แต่ละวันยังอยู่ในระดับสูง แถมไม่แน่ชัดอนาคตผู้ว่าราชการจังหวัดจะเป็นใคร เมื่อนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าฯคนปัจจุบัน ยื่นหนังสือลาออก หลังโผโยกย้ายข้าราชการกระทรวงมหาดไทยต้นเดือนตุลาคมนี้ ไม่ได้ถูกปรับย้ายไปอยู่พื้นที่ที่เบาแรงขึ้นในการรับมือโควิด-19 ตามที่เจ้าตัวร้องขอ เพื่อให้เหมาะกับสุขภาพ
ขณะที่นโยบายจัดตั้งสถานที่กักรักษาในโรงงาน(Factory Accommodation Isolation -FAI)ในโรงงานทุกแห่งที่มีลูกจ้างมากกว่า 50 คนขึ้นไป ก็กำลังมีข้อติดขัดขาดหมอพยาบาล คนดูแลหายากไม่มีใครอยากเสี่ยง การจัดสรรวัคซีนจากรัฐให้พื้นที่ 300,000 โดสในเดือนก.ค.ไม่เป็นไปตามเป้า แบกภาระหนักชุดตรวจหาเชื้อด้วยตนเอง (Antigen test kits -ATK )หายากราคาแพง เป็นต้น
นายอภิสิทธิ์ เตชะนิธิสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผย“ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ขณะนี้ในจังหวัดสมุทรสาคร มีโรงพยาบาลสนามในสถานประกอบการ หรือ FAI ที่ขึ้นทะเบียนไว้แล้วทั้ง 3 อำเภอ ประมาณ 1,514 แห่ง (ตัวเลข ณ กลางส.ค.2564) และมีเตียงสำหรับให้ผู้ป่วยกักรักษาตัวรวมประมาณ 43,530 เตียง แต่ก็พบปัญหาเรื่องบุคลากรทางการแพทย์ที่เข้ามาดูแล FAI แต่ละแห่งมีไม่เพียงพอ
เนื่องจากตามแนวทางการจัดตั้ง FAI ได้ตกลงให้โรงพยาบาลที่โรงงานแต่ละแห่ง มีความผูกพันในการทำประกันสังคมให้กับคนงาน ต้องมาเป็นโรงพยาบาลพี่เลี้ยงให้ FAI ของโรงงานที่ขึ้นทะเบียนประกันสังคมนั้น ๆ ด้วย
แต่เมื่อทางโรงงานจัดตั้ง FAI ขึ้นในโรงงานแล้ว โรงพยาบาลคู่สัญญาประกันสังคมแทบทุกแห่ง ไม่สามารถจัดหาบุคลากรฯ มาดูแล FAI ให้ได้เพียงพอ ดังนั้น จึงต้องเตรียมหารือกับที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งมีนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครเป็นประธาน ว่า จะดำเนินการและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ต่อไปอย่างไร
ด้านนายแพทย์นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ได้เปิดเผยว่า ปัจจุบันเป็นเรื่องยากมากในการจัดหาแพทย์ ไปคอยดูแลผู้ป่วยโรคโควิด-19 ทั่วประเทศ ดังนั้นจึงต้องเน้นการให้โรงงานเข้ามาช่วยดูแลกันเอง โดยพัฒนาทีมดูแลผู้ป่วยของทางโรงงาน ให้มาประจำที่ FAI และมีโรงพยาบาลพี่เลี้ยงที่ขึ้นทะเบียนไว้กับ FAI ของโรงงานนั้น ๆ มาคอยให้คำปรึกษา-ดูแลการส่งต่อผู้ป่วยที่มีอาการหนัก
การแก้ปัญหาผู้ป่วยเชื้อโควิด-19 ขณะนี้ มีความจำเป็นที่จะต้องใช้มาตรการทางสังคมมาร่วมด้วย ทั้งในเรื่องการปรับตัวของผู้ป่วย การทำเตียงให้ผู้ป่วยในโรงงาน-ในชุมชน ซึ่งระบบนี้จะมีประสิทธิภาพก็ต้องทำให้ผู้ป่วยสามารถดูแลตัวเองได้ 50% โดยไม่ต้องเป็นภาระของแพทย์มากนัก เพื่อให้ผู้ป่วยบางส่วนสามารถอยู่บ้านได้ เมื่อมีอาการหนักจึงส่งตัวมาที่โรงพยาบาลซึ่งเป็นศูนย์การรักษา
“ส่วนเรื่องการจัดสรรวัคซีนชนิดต่าง ๆ มาให้นั้น ในช่วงต้นเดือนสค. 2564 ทางจังหวัดสมุทรสาครได้รับวัคซีนมาแล้วจำนวน 30,000 โดส จากนั้นในช่วงกลางเดือนสค. 2564 จะได้รับวัคซีนมาเพิ่มอีก 18,000 โดส รวมจำนวน 48,000 โดส”นายแพทย์นเรศฤทธิ์ กล่าว
ด้านนายเฉลิมพล เนียมสกุล แรงงานจังหวัดสมุทรสาคร ได้เปิดเผยว่า สถานที่กักตัว หรือจุดพักคอยของผู้ป่วยโรคโควิด-19 หรือโรงพยาบาลสนามในสถานประกอบการ ( Factory Accommodation Isolation : FAI ) ดำเนินการตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครได้สั่งการ ให้สถานประกอบการทุกแห่งที่มีคนงานตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป หรือใช้เครื่องจักร 50 แรงม้าขึ้นไป ต้องจัดทำพื้นที่รองรับการกักตัวผู้ติดเชื้อของโรงงาน ให้มีเตียงไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 และต้องเพียงพอต่อจำนวน และการแยกกักตัวของผู้ติดเชื้อในโรงงาน ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข
โดยจะใช้บุคลากรของโรงงาน เช่น เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคล เจ้าหน้าที่ซึ่งดูแลคนงาน เจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัย หรือเจ้าหน้าที่ห้องพยาบาลของโรงงาน มาอบรมให้ความรู้ในการเข้าไปร่วมดูแลผู้ป่วยระยะสีเขียว
โดยมีโรงพยาบาลพี่เลี้ยงคอยให้คำปรึกษา คอยรับการแจ้งขอความช่วยเหลือด้านการรักษา และเมื่อผู้ป่วยที่ถูกกักตัวมีอาการหนักขึ้น หรือเปลี่ยนสภาพเป็นผู้ป่วยสีเหลือง ผู้ดูแลก็จะต้องติดต่อกับโรงพยาบาล หรือส่งตัวผู้ป่วยไปรักษาที่โรงพยาบาล ตามกระบวนการส่งต่อที่ทางจังหวัดได้กำหนดเอาไว้
ซึ่ง FAI จะจัดตั้งในโรงงาน หรือหลายโรงงานรวมตัวกันไปจัดตั้ง ณ สถานที่ภายนอกก็ได้ เช่น FAI ของนิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร ซึ่งอยู่ที่อาคารสถานที่จัดเลี้ยงเดิม ย่านถนนท่าปรง ในตำบลมหาชัย หรือ FAI ของนิคมอุตสาหกรรมสินสาคร ที่จัดตั้งในโรงงานว่างภายในนิคมอุตสาหกรรมสินสาคร
“โดยเมื่อวันที่ 5 สค.64 ทางจังหวัดสมุทรสาคร ได้เปิดโรงพยาบาลสนามสีเหลืองแห่งแรก ซึ่งสามารถให้ออกซิเจนกับผู้ป่วยได้จำนวน 200 เตียง ณ ศูนย์ห่วงใยคนสาครแห่งที่ 10 หรือโรงพยาบาลสนามเชิงสะพานท่าจีน ทั้งเตรียมจัดตั้งโรงพยาบาลสนามสีเหลืองอีก 2 แห่งที่ อำเภอกระทุ่มแบน และที่อำเภอบ้านแพ้ว” นายเฉลิมพล กล่าว