“ทูตพาณิชย์จีน”ชี้ตลาดเครื่องปรุงรสรุ่ง แนะผปก.ไทยรุกผ่านช่องทางออนไลน์

27 ส.ค. 2564 | 14:02 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ส.ค. 2564 | 21:08 น.

ทูตพาณิชย์เมืองกวางโจวชี้ วิถีNew normal ของชาวจีนหลังCOVID-19 ทำให้ยอดขายสินค้าอาหารกึ่งสำเร็จรูป อาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง และซอสปรุงรสสำเร็จรูปพุ่งสูงต่อเนื่อง แนะผู้ประกอบการไทยใช้แพลตฟอร์มออนไลน์และเดลิเวอรี่เป็นเครื่องมือในการดันยอดขาย

นางสาวศุภรา เสกาจารย์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองกวางโจว กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์และหาโอกาสส่งเสริมผู้ประกอบการไทยในการขยายตลาดไปยังประเทศจีน พบว่า ตลาดสินค้าเครื่องปรุงรสชนิดผสม โดยเฉพาะซอสปรุงรสสำเร็จรูปพร้อมทานยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในจีน ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นซอสเนื้อปรุงรสและซอสเห็ดหอมปรุงรส โดยผู้บริโภคกลุ่มคนวัยเรียนและกลุ่มคนวัยทำงานมีแนวโน้มนิยมรับประทานซอสปรุงรสสำเร็จรูปพร้อมทานควบคู่กับข้าวเปล่าและบะหมี่มากขึ้น 

“ทูตพาณิชย์จีน”ชี้ตลาดเครื่องปรุงรสรุ่ง  แนะผปก.ไทยรุกผ่านช่องทางออนไลน์

โดยในปี 2563 มูลค่าตลาดสินค้าเครื่องปรุงรสในจีนสูงถึง 395,000 ล้านหยวน (ประมาณ 1,975,000 ล้านบาท) ที่น่าสนใจคือกลุ่มตลาดสินค้าเครื่องปรุงรสชนิดผสม มีอัตราการเติบโตต่อปี 15.83% มีมูลค่าตลาด 150,000 ล้านหยวน (ประมาณ 750,000 ล้านบาท) คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 400,000 ล้านหยวน (ประมาณ 2,000,000 ล้านบาท) ในปี 2573 ซึ่งยังมีช่องว่างการเติบโตทางการตลาดได้อีกเกือบ 2.7 เท่าตัว

“ทูตพาณิชย์จีน”ชี้ตลาดเครื่องปรุงรสรุ่ง  แนะผปก.ไทยรุกผ่านช่องทางออนไลน์

โอกาสทางการตลาดของสินค้าซอสปรุงรสสำเร็จรูปพร้อมทานในจีนยังคงสดใส โดยคู่แข่งในตลาดยังไม่ได้ผูกขาดทางตลาดมากนัก อีกทั้งเทรนด์การบริโภคอาหารที่ทำจากพืช ซึ่งดีต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมกำลังกลายเป็นเทรนด์ใหม่ ดังนั้นการคิดค้นผลิตภัณฑ์อาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจึงเป็นประเด็นที่ไม่ควรมองข้าม ผู้ประกอบการไทยควรเร่งพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ สินค้าให้ตรงและทันต่อความต้องการของผู้บริโภคชาวจีน และให้ความสำคัญกับการประชาสัมพันธ์สินค้าผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลต่าง ๆ ของจีน ไม่ว่าจะเป็น Tik Tok, Weibo, Xiaohongshu ซึ่งจะทำให้สามารถเจาะตลาดจีนได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น”

นอกจากนี้ผู้ประกอบการยังสามารถเข้ากิจกรรมของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ อาทิ งานแสดงสินค้าอาหาร THAIFEX – ANUGA ASIA ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ซึ่งจัดในลักษณะHybrid+ เป็นการผสมผสานการจัดงานระหว่างออนไลน์และออฟไลน์ โดยกำหนดเริ่มกิจกรรมออนไลน์ในรูปแบบ Online Business Matching (OBM) และกิจกรรมเสมือนจริงที่จะมีขึ้นในวันที่ 29 ก.ย. - 3 ต.ค. 64 ได้ทาง www.thaifex-vts.com ขณะที่กิจกรรมออฟไลน์ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-28 พ.ค. 2565 ณ อิมแพค เมืองทองธานี