“พาณิชย์”แนะผปก.มันสำปะหลัง ตรวจเข้มก่อนส่งออกป้องกันเชื้อโควิด

01 ก.ย. 2564 | 07:05 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ก.ย. 2564 | 14:17 น.

“พาณิชย์” แนะผู้ประกอบการ ทั้งผู้ผลิต แปรรูป ส่งออก สินค้าเกษตรตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ยกระดับมาตรการป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโควิด-19  โดยเฉพาะมันสำปะหลัง ป้องกันการถูกปฏิเสธการเทียบท่า ณ เมืองปลายทาง

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เปิดเผยว่า กรมฯ ได้รับแจ้งข้อกังวลของภาคเอกชนเกี่ยวกับการเพิ่มความเข้มงวดการปนเปื้อนเชื้อโควิด-19 ณ ท่าเรือปลายทางของประเทศจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรือใหญ่เดินทะเลที่ขนส่งสินค้ามันสำปะหลังจากไทยไปจีน ที่ไม่มีใบรับรองการตรวจโควิด-19 อาจถูกปฏิเสธให้เรือเทียบท่าเพื่อขนถ่ายสินค้า ณ ท่าเรือปลายทางของจีน ดังนั้น ผู้ประกอบการเดินเรือระหว่างประเทศที่ขนส่งมันสำปะหลังจากไทยไปจีน ควรมีมาตรการรองรับเพื่อให้ประเทศปลายทางมั่นใจได้ว่าพนักงานบนเรือของตนปราศจากเชื้อโควิด-19 เพื่อให้การขนส่งสินค้าระหว่างกันเป็นไปอย่างราบรื่นและต่อเนื่อง

“พาณิชย์”แนะผปก.มันสำปะหลัง ตรวจเข้มก่อนส่งออกป้องกันเชื้อโควิด

ดังนั้น ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกสินค้าเกษตรต้องเพิ่มความเข้มงวดการป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโควิด-19 ในทุกขั้นตอนของกระบวนการส่งออก เช่น สินค้ามันสำปะหลัง กรมฯ ได้ประสานภาคเอกชน หากพบการติดเชื้อของพนักงานที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่การผลิต ให้เร่งคัดแยกผู้ติดเชื้อออกและดำเนินการภายใต้มาตรการบับเบิลแอนด์ซีล (Bubble and Seal) โดยเคร่งครัด รวมทั้งให้พนักงานมีการตรวจสอบการติดเชื้อโดยวิธี ATK (Antigen Test Kit) เป็นระยะอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเจ้าหน้าทีที่เกี่ยวข้องในกระบวนการส่งออกจะปลอดจากเชื้อโควิด-19

อย่างไรก็ดี ในส่วนของเรือใหญ่เดินทะเลที่ลูกค้าปลายทางเป็นผู้จัดหามาเองนั้น ให้ผู้ประกอบการเดินเรือระหว่างประเทศมีมาตรการรองรับเพื่อให้ประเทศปลายทางมั่นใจได้ว่าพนักงานบนเรือปราศจากการติดเชื้อโควิด-19 ในการส่งออกสินค้าเกษตรไปยังทุกตลาดทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดจีน เพื่อป้องกันการถูกปฏิเสธการเทียบท่า ณ เมืองปลายทาง

 

 

สำหรับการส่งออกมันสำปะหลังในเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2564 ไทยส่งออกรวม 6.361 ล้านตัน มูลค่า 2,330.66 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 43 และ 48 ตามลำดับ จากช่วงเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2563 ที่มีปริมาณส่งออกรวม 4.441 ล้านตัน มูลค่า 1,573.38 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ