“จุรินทร์”ปลื้ม เด็กรุ่นใหม่แห่ เข้าคก.ปั้น Gen Z เป็น CEO

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตัวเลขสะท้อนชัดว่า Gen Z (ประชากรช่วงวัยอายุ 9-24 ปี โดยฐานข้อมูลอ้างอิงสำนักงานสถิติแห่งชาติ) ทั่วทั้งประเทศมีกว่า 13 ล้านคน จากประชากรไทยทั้งประเทศ 60-70 ล้านคน ถือว่ามีสัดส่วนเชิงปริมาณที่มีความสำคัญและในเชิงคุณภาพทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับ Gen Z ที่จะต้องเติบโตไปเป็นแม่ทัพทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยต่อไปในอนาคต โครงการ From Gen Z to be CEO ของกระทรวงพาณิชย์ที่ตนเป็นผู้รับผิดชอบจึงเกิดขึ้น หรือเรียกว่าโครงการปั้น Gen Z เป็น CEO

โดยกระทรวงตั้งเป้าหมายว่าภายในปี 2564 กระทรวงพาณิชย์จะปั้น Gen Z ให้เป็น CEO ได้ไม่ต่ำกว่า 12,000 คนแต่ปรากฏว่าจนถึงตอนนี้มี Gen Z สมัครเข้ามาแล้วถึง 20,000 คน สูงกว่าเป้าถึง 8,000 คน อบรมไปแล้วรไม่รวมวันนี้ 14,000 คน ในปีนี้กระทรวงพาณิชย์มั่นใจว่าจะสามารถสนองความต้องการของ Gen Z ได้ทั้งหมด 20,000 คน จากเป้าหมาย 12,000 คน และที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ มีหลักสูตรเพิ่มทักษะศักยภาพให้กับผู้ประกอบการอีกหลายรุ่น รวมกันทั่วทั้งประเทศด้วยหลายหลักสูตรด้วยกัน โดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการยุคใหม่ (NEA) ทำมาแล้วในช่วงที่ตนเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการถึง 67,000 คน รวม Gen Z ที่อบรมไปแล้วจนถึงวันนี้อีก 16,000 คน รวมสามารถดำเนินการไปแล้วถึง 83,000 คน

ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์มี หลักสูตรต่างๆเช่น  อีคอมเมิร์ซซึ่งจะเป็นอนาคตของระบบการค้าโลกจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในอนาคตมากยิ่งขึ้นเพราะกฎเกณฑ์ทั้งหลายใน FTA และหลายข้อตกลงทางการค้าในระบบพหุภาคีทั้ง ASEAN  และ RCEP ล้วนให้ความสำคัญกับอีคอมเมิร์ซทั้งสิ้นหรือ หลักสูตรเรื่องโลจิสติกส์ เป็นต้น  ซึ่งเมื่ออบรมแล้วได้คะแนนผ่านเกณฑ์ครบ 500 คน จะได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม ได้อบรมกับบริษัททรูคอร์ปอเรชั่น และ Bitkub ผู้ที่ได้ TOP 100 คนแรก จะได้มีโอกาสฝึกงานกับบริษัทใหญ่เช่น ทรู หัวเว่ย และเอ็กซิมแบงค์ รวมทั้งโอกาสทำงานร่วมกันฝึกอบรมร่วมกับสำนักงานทูตพาณิชย์ไทยด้วยเพื่อเรียนรู้การค้าในต่างประเทศ

“สิ่งที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสำคัญสำคัญอันหนึ่งคือ การส่งออก แม้ในช่วงวิกฤติโควิดถือว่าตัวเลขส่งออกในช่วงที่ผ่านมาเช่น เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา +41% มากที่สุดในรอบ 11 ปี เดือนมิถุนายน +43% เดือนกรกฎาคม +20% และก่อนเจอโควิดรอบใหม่กระทรวงตั้งเป้าว่าจะ +4% ทั้งปี โดยตัวเลขส่งออก 7 บวก 16.2% มากกว่าเป้าที่ตั้งไว้ถึง 4 เท่า ดังนั้นการส่งออกตอนนี้กลายเป็นพระเอกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศและตัวที่สองการลงทุนมี 2 ตัว คือการลงทุนภาครัฐเงินก้อนใหญ่ที่สุดคืองบประมาณแผ่นดิน ซึ่งเดินหน้าได้อยู่ พรบ.งบประมาณก็ผ่านสภาผู้แทนไปแล้วยังเดินหน้าลงทุนได้ไม่ติดขัด รวมถึงกลับมานักลงทุนที่ขอการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI เพิ่มขึ้นเยอะมาก ซึ่งภาคการลงทุนจะเป็นอีกภาคหนึ่งที่เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ”