นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยภายหลังพิธีลงนามร่วมกันในบันทึกข้อตกลงการบริหารจัดการทรัพย์สินระหว่างรฟท.กับ บริษัท เอสอาร์ที เเอสเสท จำกัด (บริษัทลูก) ว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงฯ ครั้งนี้ ถือเป็นการปฏิรูปด้านการบริหารจัดการทรัพย์สินครั้งสำคัญของรฟท. และเป็นการดำเนินภารกิจตามมติของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2563 ที่เห็นชอบให้รฟท.ดำเนินการจัดตั้งบริษัทลูก บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด ขึ้น เพื่อบริหารทรัพย์สินของการรถไฟแห่งประเทศไทยให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยฟื้นฟู สร้างรายได้ให้แก่การรถไฟฯ ตามแผนฟื้นฟูกิจการฯ ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.)
“ช่วงแรกรฟท. จะเริ่มทยอยโอนทรัพย์สินโครงการขนาดใหญ่ที่มีการทำสัญญาไว้แล้ว จำนวน 75 สัญญา มูลค่าทรัพย์สิน 1,645 ล้านบาท โดยใช้เวลาโอนเสร็จสิ้นภายในเวลา 2 เดือน ระหว่างเดือนกันยายน-ตุลาคม 2564 ซึ่งจะทำให้บริษัท เอสอาร์ที เเอสเสท จำกัด สามารถดำเนินการบริหารจัดการทรัพย์สินได้ทันที และหลังจากนั้นจะมีการทยอยโอนส่งมอบทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายดำเนินการโอนทรัพย์สินทั้งหมด 12,839 สัญญา มูลค่า 3,166 ล้านบาท แล้วเสร็จภายในปี 2565”
ทั้งนี้รฟท.ได้ดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด แล้วเสร็จไป เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2564 การลงนามความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการส่งมอบทรัพย์สินของการรถไฟแห่งประเทศไทย ให้กับบริษัท เอสอาร์ที เเอสเสท จำกัด เป็นผู้ดูแลบริหารจัดการแทน อย่างไรก็ดี กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินทั้งหมดนั้น ยังคงเป็นของรฟท.เช่นเดิม
นายนิรุฒ กล่าวต่อว่า บริษัท เอสอาร์ที เเอสเสท จำกัด จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยบริหารจัดการและสร้างรายได้ให้กับรฟท. ทั้งด้านการบริหารสัญญาเช่าที่ได้รับมอบจากรฟท.การจัดหาผู้ลงทุนและการเช่าพื้นที่เพื่อพัฒนาโครงการบนที่ดินของรฟท. รวมทั้งการพัฒนาด้วยตนเอง การซื้อหรือเช่าที่ดินจากบุคคลภายนอกเพื่อพัฒนาหรือร่วมทุน หวังสร้างการเติบโตในระยะยาวให้แก่รฟท.ซึ่งจะส่งรฟท.มีรายได้จากการบริหารทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น มีระบบบริหารจัดการที่มีมาตรฐานสากล และมีทางเลือกในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนอื่นๆ ตลอดจนยังส่งผลดีต่อภาพรวมในอีกหลายมิติ ทั้งมิติทางเศรษฐกิจในการช่วยกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ การจ้างงานการท่องเที่ยว ด้านสังคมช่วยให้การบริหารพื้นที่ชุมชนที่บุกรุกสามารถดำเนินการให้มีประสิทธิภาพ ตลอดจนช่วยให้การบริหารจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมดีขึ้น
“รฟท. คาดหวังว่าภายหลังการส่งมอบการบริหารทรัพย์สินแล้ว บริษัท เอสอาร์ที เเอสเสท จำกัด ซึ่งถูกออกแบบมาให้เป็นอิสระและเป็นมืออาชีพด้านการจัดการอสังหาริมทรัพย์จะสามารถบริหารจัดการทรัพย์สินของรฟท.ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อรฟท.สามารถสร้างรายได้แก่องค์กร และเป็นฟันเฟืองสำคัญในการช่วยพลิกฟื้นการรถไฟฯ ให้กลับมาเป็นองค์กรที่มีความเข้มแข็ง สามารถดูแลและให้บริการแก่พี่น้องประชาชนตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนยุทธศาสตร์กระทรวงคมนาคมได้อย่างยั่งยืน”