นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (นปท.) ครั้งที่ 1/2564 โดยมี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่าที่ประชุมรับทราบสถานะ Flagship 5 โครงการสำคัญ กระทรวงคมนาคม ได้แก่ 1.โครงการศึกษาวิเคราะห์การให้เอกชนร่วมทุนการพัฒนาท่าเทียบเรือรองรับเรือสำราญขนาดใหญ่ (Cruise Terminal) อ.เกาะสมุย สุราษฏร์ธานี 2. โครงการวางแผนแม่บทเพื่อพัฒนาท่าเรือ สำรวจออกแบบ Cruise Terminal ฝั่งอันดามัน 3. โครงการศึกษาสำรวจออกแบบท่าเรือต้นทาง (Home Port) สำหรับ Cruise Terminal อ่าวไทยตอนบน 4.โครงการปรับปรุงท่าเทียบเรือเพื่อการท่องเที่ยวและบริหารจัดการภายในท่าเทียบเรือเพื่อความปลอดภัยที่ท่าเทียบเรือฯ ปากคลองจิหลาด จ.กระบี่ 5. โครงการปรับปรุงท่าเทียบเรือเพื่อการท่องเที่ยวและบริหารจัดการภายในท่าเทียบเรือเพื่อความปลอดภัยที่ท่าเทียบเรือฯ ท้องศาลา และท่าเทียบเรือหาดริ้น อ.เกาะพงัน สุราษฏร์ธานี
“เบื้องต้นที่ประชุมได้สั่งการให้ดำเนินการ ขับเคลื่อนอย่างรอบคอบ เข้มแข็งให้เป็นไปตามแผนความมั่นคงแห่งชาติทางทะเลอย่างเคร่งครัดต่อไป”
ทั้งนี้กรมเจ้าท่า ได้ร่วมแก้ปัญหากับศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) สำเร็จแล้ว ดังนี้ 1.ควบคุมเรือสำราญและกีฬา (เรือยอร์ช) ในช่วงการแพร่ระบาดของโรค COVID - 19 ปฏิบัติงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย2. สนับสนุนโครงการ Phuket Sandbox 3.บูรณาแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่สาธารณะบริเวณอ่าวบ้านดอน สุราษฎร์ธานี ได้รื้อถอน 465 ขนำ สามารถส่งคืนพื้นที่ อ่าวบ้านดอน กว่า 2000,000 ไร่ (อ.เมืองสุราษฏร์ฯ (28,265 ไร่) อ.กาญจนดิษฐ์ (23,378 ไร่) อ.ท่าฉาง (23,457 ไร่) อ.ไชยา (8,164 ไร่) 4. แก้ไขปัญหาการใช้ร่องน้ำเดินเรือในทะเลสาบสงขลา ได้แก้ไขปัญหาประมงผิดกฎหมาย หารือร่วมหลายฝ่ายและสำรวจเปิดร่องน้ำสัญจรเร่งด่วน 2 ครั้ง 5. แก้ไขปัญหาระหว่างประมงพื้นบ้านกับโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ได้จัดทำแนวทางแก้ไขปัญหากระทบต่อโครงการฯ ระยะที่ 3 แล้ว เกี่ยวกับการเรียกร้องการเยียวยาประมงพื้นบ้าน และนำเป็นโมเดลเยียวยาให้กับชาวประมงต่อไป 6. การบูรณาการให้ความช่วยเหลือกรณีเรือสันทัดสมุทรอับปาง บริเวณเกาะสมุย ขณะนี้ได้ดำเนินการเก็บกู้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว