นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยการใช้สิทธิประโยชน์สำหรับการส่งออกภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) และภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) ระหว่างเดือนมกราคม-กรกฎาคม มีมูลค่า 46,394.36 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ 77.30% แบ่งเป็นมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) 44,178.04 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) 2,216.32 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ โดยภาพรวม การใช้สิทธิประโยชน์ฯ ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2564 เพิ่มขึ้น36.23%
ส่วนการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ความตกลงทางการค้าเสรี (FTA) 7 เดือนแรกของปี 2564 มีมูลค่า 44,178.04 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 36.30% มีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ 78.17 % โดยตลาดที่ไทยส่งออกโดยมีมูลค่าการใช้สิทธิฯ ภายใต้ FTA สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อาเซียน มูลค่า 15,409.35 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จีน มูลค่า 14,773.87 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ออสเตรเลีย มูลค่า 4,893.99 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯญี่ปุ่น มูลค่า 4,072.09 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ อินเดีย มูลค่า 2,645.32 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับกรอบความตกลงการค้าเสรีที่มีอัตราการใช้สิทธิประโยชน์ฯ สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ไทย-เปรู , อาเซียน-จีน ไทย-ญี่ปุ่น ,อาเซียน-เกาหลี และ ไทย-ชิลี
ขณะที่การใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป หรือ GSP ทั้ง 4 ระบบ สหรัฐอเมริกา สวิตเซอร์แลนด์ รัสเซียและเครือรัฐเอกราช และนอร์เวย์ 7 เดือนแรกของปี 2564 มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ 2,216.32 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 34.98% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และมีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ 63.30 % ตลาดส่งออกที่ไทยมีมูลค่าการใช้สิทธิฯ มากที่สุดคือ สหรัฐอเมริกา มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ 1,973.21 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น43.16% และมีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ 66.30% อันดับสองคือ สวิตเซอร์แลนด์ มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ 153.91 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง 9.56 % และมีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ38.78% อันดับสามคือ รัสเซียและเครือรัฐเอกราช มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ 79.83 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯลดลง5.68 % และมีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ70.88% และนอร์เวย์ มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ 9.37 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 6.40% และมีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ 59.97%
สำหรับสินค้าส่งออกที่มีการใช้สิทธิฯ สูง อาทิ มะพร้าวปรุงแต่ง ซอสปรุงรส น้ำ/เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ อาหารปรุงแต่ง สับปะรดกระป๋อง กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ เนื้อปลาแบบฟิลเล สด แช่เย็น แช่แข็ง ข้าวที่สีบ้างแล้วหรือสีทั้งหมด ของผสมของสารที่มีกลิ่นหอมชนิดที่ใช้ในอุตสาหกรรมผลิตอาหารหรือเครื่องดื่ม
โดยในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2564 ไทยมีการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าเพื่อส่งออกภายใต้กรอบ FTA ต่าง ๆ เพิ่มขึ้น โดยเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับทิศทางการส่งออก และหลายตลาดเริ่มกลับมาฟื้นตัวหลังจากหดตัวต่อเนื่อง ได้แก่ ไทย-อินเดีย เพิ่มขึ้น4.91% และ อาเซียน-ญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 3.89% สำหรับสินค้าที่มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ สูง ประกอบไปด้วยสินค้าหลากหลาย ทั้งสินค้าอุตสาหกรรม อาหาร/เครื่องดื่ม และเกษตร