“จุรินทร์”หารือ ทูตอินโดนีเซีย หวังดันส่งออกข้าว-ลำไยเพิ่ม

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังที่ Mr.Rachmat Budimanเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจําประเทศไทยเข้าเยี่ยมคารวะและหารือการค้าการลงทุนในตลาดอินโดนีเซียว่า อินโดนีเซีย อินโดนิเซียถือว่าเป็นคู่ค้าลำดับ 3 ของไทยในอาเซียน และเป็นคู่ค้าที่มีความสำคัญลำดับ 7 ในโลกของไทย รองจากจีน ญี่ปุ่น อียู สหรัฐฯ มาเลเซีย เวียดนาม โดยไทยมีความต้องการดันสินค้าไทยไปในตลาดอินโดนีเซียให้มากขึ้น

 โดยเฉพาะการประชาสัมพันธ์สินค้าไทยบนแพลตฟอร์ม blibli.com กว่า 1,863 รายการ ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นอาหารสุขภาพ ความงามและไลฟ์สไตล์ให้เป็นที่รู้จักอย่างในตลาดอินโดนีเซีย นอกจากนี้ยังมีแผนจะเชิญภาคเอกชนและผู้นำเข้า เข้ามาร่วมกิจกรรม OBM (Online Business Matching ) ของไทย อย่างน้อย 2 งานในปีนี้ คือ งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ THAIGROOVE วันที่ 23 - 26 พ.ย.ปีนี้ และงาน Phuket Gems Fest วันที่ 30พ.ย - 3 ธ.ค.นี้รวมถึงการเจรจาเรื่องข้าวเพื่อจะได้เร่งรัดการส่งออกข้าวไทยไปยังอินโดนีเซียต่อไปในอนาคต  

นอกจากนี้การส่งออกลำไยของไทยไปยังอินโดนีเซียช่วง 3-4 ปี ที่ติดขัดปัญหาเรื่องของการออกมาตรการของอินโดนีเซียที่จะต้องมี จีเอพีรับรองตามมาตรฐานและจีเอพีมาตรฐานด้านสุขอนามัยและอื่นๆที่เกี่ยวข้องรวมถึงจะต้องผ่านความเห็นชอบ 2 กระทรวงของอินโดนีเซีย คือกระทรวงเกษตรและกระทรวงการค้านั้น ได้ขอให้ทางทูตอินโดนีเซียรับทราบข้อมูล เพื่อหาทางคลี่คลายให้ลำไยไทยสามารถไปสนองความต้องการของผู้บริโภคอินโดนิเซียได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตามในประเด็นต่างๆทั้งหมดนี้ยังสามารถที่จะไปหาข้อสรุปในการแก้ปัญหาร่วมกันได้ในการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Commitee:JTC )ระหว่างไทยกับอินโดนีเซียซึ่งมีข้อตกลงกันมาตั้งแต่ปี 54 แต่ยังไม่เคยมีการประชุม จึงเสนอว่าขอให้ร่วมมือกันจัดการ JTC ครั้งแรกขึ้นโดยไทยยินดีที่จะเป็นเจ้าภาพ เสนอว่าควรจะเป็นช่วนธันวาคมปีนี้ เพื่อคลี่คลายปัญหาระหว่างกันด้านการค้าการลงทุนและในเรื่องอื่นๆ ซึ่งจะไทำหนังสือไปถึงรัฐมนตรีการค้าอินโดนิเซียต่อไป

ส่วนอินโดนิเซียมี 3-4 ประเด็นที่เสนอมายังไทย เช่น อินโดนิเซียประสงค์จะส่งออกกุ้งสดมายังประเทศไทย เพื่อนำมาใช้ในการผลิตเพื่อการส่งออกของไทย ขณะนี้มีอุปสรรคอยู่บางประการซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะไปหารือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะส่งเสริมตัวเลขการส่งออกของเราต่อไปด้วยรวมถึงการออกกฏหมายฉบับใหม่เพื่อส่งเสริมการลงทุน มีการจัดทำเขต

เศรษฐกิจพิเศษ จะเชิญชวนนักลงทุนไทยไปลงทุน รวมทั้งอินโดนิเซียสนใจที่จะให้นักธุรกิจไทยไปลงทุนด้านการท่องเที่ยวและทำกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกัน ซึ่งเป็นนโยบายของประเทศไทยอยู่แล้วในการจะส่งเสริมการท่องเที่ยว เมื่อนักท่องเที่ยวมาที่ประเทศหนึ่งก็สามารถเดินทางต่อไปยังอีกประเทศหนึ่งได้

สำหรับภาพรวมระหว่างการค้าไทย อินโดนีเซีย 8 เดือนแรกปีนี้ มีมูลค่าการค้าร่วมกัน 347,727 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% สินค้าที่ไทยส่งออกไปอินโดนีเซียที่สำคัญ เช่นรถยนต์และส่วนประกอบ +65.4% เม็ดพลาสติก +74.7% ผลิตภัณฑ์ยาง +97% อาหารสัตว์เลี้ยง +52% ลำไย +91.8% เครื่องดื่ม +30.9 % ยางพารา +27.6% เป็นต้น ส่วนสินค้าที่นำเข้าจากอินโดนีเซียที่สำคัญ ประกอบด้วย 1.น้ำมันดิบ +328% 2.เคมีภัณฑ์ +91.6% และ 3.เหล็กกับผลิตภัณฑ์เหล็ก +251%โดยนำเข้ามาเพื่อภาคการผลิตส่งออกต่อไปในปี 64 หรือ ช่วง 8 เดือนแรก ไทยยังได้ดุลการค้าอินโดนิเซียอยู่ 3,248 ล้านบาท