นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยในงานประชุมสามัญประจำปี 2564 ส.อ.ท. ว่า ส.อ.ท.เตรียมจัดงาน ส.อ.ท.เอ็กซ์โปร Made in Thailand หรือ FTI EXPO 2022 เพื่อเป็นการรองรับการเปิดประเทศของไทย โดยจะเป็นการนำเสนอศักยภาพของอุตสาหกรรมเพื่อจุดประกายการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของวงการอุตสาหกรรมไทย ซึ่งคาดว่าในงานดังกล่าวจะมีผู้เข้าชมประมาณ 100,000 คนและมียอดการเจรจาทางธุรกิจไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
ทั้งนี้ งานดังกล่าวจะมีพื้นที่มากกว่า 30,000 ตารางเมตร การแสดงสินค้าอุตสาหกรรมครอบคลุม 11 คลัสเตอร์ มีบูธนานาชาติ มีการประชุมสัมมนาและการเจรจาธุรกิจ โดยในงานจะชูแนวคิด BCG โมเดลหรือ Bio Cicular Green Economy โดยงานจะมีระหว่างวันที่ 2-6 ก.พ. 2565 ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติเชียงใหม่
อย่างไรก็ดี แม้ว่าไทยจะเผชิญกับวิกฤติโควิด-19 (Covid-19) แต่ทุกวิกฤติหากมีการปรับตัวก็จะพบกับโอกาสได้ ซึ่งทุกส่วนต้องปรับตัวให้ก้าวทันกับกระแสโลกที่เปลี่ยนแปลงไปโดยเฉพาะกระแสของดิจิทัล และสิ่งแวดล้อม ซึ่ง BCG จะเข้ามาตอบโจทย์อย่างมาก และ ส.อ.ท.ได้มุ่งเน้นบริการ 360 องศา แก่สมาชิก ครอบคลุมทุกมิติ
ขณะเดียวกันทางด้านนวัตกรรมซึ่งธุรกิจขนาดกลางและย่อม หรือเอสเอ็มอี (SMEs) ของไทยเข้าถึงสิ่งเหล่านี้ได้ยากมาก สถาบันนวัตกรรมเพื่ออุตสาหกรรมของส.อ.ท.จึงเตรียมจัดตั้งกองทุนนวัตกรรมโดยให้ธุรกิจขนาดใหญ่ระดมเงินเข้ามาสนับสนุนและจากภาครัฐเบื้องต้นจะมีวงเงินประมาณ 1,000-2,000 ล้านบาทเพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอีให้เข้าถึงการพัฒนานวัตกรรมอย่างครบวงจร เป็นต้น
"ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ส.อ.ท.ยังคงมุ่งมั่นช่วยเหลือสมาชิกให้อยู่รอดจากวิกฤติโควิด-19 และตามคอนเซ็ปต์ FTI Together We Can ทั้งการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามที่จ.สมุทรสาคร มีการจัดหาวัคซีนทางเลือกคือ ชิโนฟาร์ม กับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ให้กับสมาชิกไปแล้วกว่า 7 แสนโดส ซึ่งเห็นว่ามีความจำเป็นที่ภาครัฐบาลต้องเร่งฉีดให้กับประชาชนโดยเร็วที่สุดเพื่อให้เศรษฐกิจกับมาโดยเร็ว"