นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เผยว่า จากสถานการณ์น้ำในอ่างฯลำเชียงไกร (ตอนล่าง) ได้รับผลกระทบจาก "พายุเตี้ยนหมู่" ทำให้มีปริมาณน้ำเกินความจุเก็บกักน้ำล้นสปิลเวย์ (Spillway) และไหลข้ามทำนบดินชั่วคราว บริเวณบ่อก่อสร้างงานปรับปรุงทางระบายน้ำล้น และเกิดการกัดเซาะบริเวณฝั่งขวาของอาคารที่ยังอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง กว้างประมาณ 15 เมตร ได้เร่งรัดให้แก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วน
โดยการถมดินบริเวณฝั่งซ้ายของอาคารระบายน้ำล้นเพื่อให้เครื่องจักรสามารถเข้าไปทำงานบนอาคารได้จนแล้วเสร็จ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรื้อถอนนั่งร้านและแผ่น Stop lock บริเวณอาคารระบายน้ำล้นออก เพื่อให้น้ำสามารถระบายผ่านอาคารได้สะดวกขึ้น
ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการลำเลียงกล่อง Gabion ปิดบริเวณฝั่งขวาของอาคารระบายน้ำล้น เพื่อชะลอการไหลของน้ำ ซึ่งจะช่วยให้สามารถขนดินเข้าไปถมปิดช่องที่ถูกกัดเซาะได้สะดวกมากขึ้น โดยให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพื้นที่ด้านท้าย และเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งที่กำลังจะมาถึง
สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร(ตอนล่าง) ปัจจุบัน(28 ก.ย. 64) มีปริมาณน้ำในอ่างฯ 22.89 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 82 ของความจุอ่างฯ แนวโน้มระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มในพื้นที่ตอนบน จะทำการปิดการระบายน้ำในอ่างฯ เพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งปีที่กำลังจะมาถึงต่อ