รายงานข่าวจาก บริษัท เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ KC ระบุว่าบริษัทได้เล็งเห็นถึงปัญหาและอุปสรรคการได้มาซึ่งใบอนุญาตปลูกกัญชาทางการแพทย์อย่างถูกกฎหมายนั้น วิสาหกิจชุมชนฯ ต่างๆ จะต้องจับมือกับหน่วยงานของรัฐ โดยมี MOU เป็นอันดับแรก อันดับสอง จะต้องมีโรงเรือนเพาะปลูกกัญชาให้แล้วเสร็จ 100% และอันดับสาม จะต้องมีผู้รับซื้อชัดเจน ตามมาตรฐาน SOP ที่ยื่นขอ หากองค์การอาหารและยา (อย.) ให้ความเชื่อถือก็จะได้รับอนุญาต
ดังนั้นจึงเป็นที่มาของความร่วมมือ ระหว่าง KC กับ สถาบันพัฒนาส่งเสริมปลูกกัญชาทางแพทย์ โดย KC เป็นผู้ก่อสร้างโรงเรือนระบบที่ได้มาตรฐาน และสถาบันพัฒนาส่งเสริมฯ เป็นผู้ให้คำปรึกษา แนะนำแนวทางปลูกกัญชาทางการแพทย์ เพื่อสร้างมาตรฐานการเพาะปลูกอย่างถูกต้องตามมาตรฐานสากล ป้องกันการก่อเกิดปัญหาสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพ ซึ่งกฎหมายไม่อนุญาตให้วิสาหกิจชุมชนฯ ครอบครองช่อดอก ต้องเผาทำลายทิ้ง ตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด ส่วนช่อดอกที่ได้มาตรฐานนั้นสามารถนำมาทำเป็นสารสกัดได้
โดย KC ซึ่งถือว่าเป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่ชำนาญในธุรกิจก่อสร้างและมีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน ในการดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายและให้บริการที่อยู่อาศัยแบบครบวงจรตลอดระยะเวลาเกือบ 40 ปี โดยทางเค.ซี. ได้พัฒนาก่อสร้างโรงเรือน เพาะปลูกให้เหมาะสมกับการเพาะปลูกกัญชา (Green House) โดยออกแบบแก้ไขปัญหาความร้อนในโรงงานด้วย ระบบอีแวป (Evap) มีการออกแบบให้ติดตั้งพัดลมเพื่อลดความร้อน เพิ่มความชื้นให้กับโรงเรือนโดยได้ก่อสร้างตาม ความเหมาะสมกับการปลูกกัญชามากที่สุด จากการศึกษาข้อมูลโครงสร้างโรงเรือนเพาะปลูกที่มีความแข็งแรง ทนทาน และมีความเหมาะสมกับการปลูกกัญชาเพื่อให้ได้ผลผลิตคุณภาพดี และมีประสิทธิภาพมากที่สุด นับเป็น ความภาคภูมิใจที่บริษัทฯ ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนา
จึงมีแนวความคิดที่อยากช่วยเหลือวิสาหกิจชุมชนฯ ต่างๆ ในการสร้างโรงเรือนให้เป็นไปตามมาตรฐาน ในราคาที่ยุติธรรม จับต้องได้ สามารถแก้ปัญหาและอุปสรรคต่างๆได้ โดยมีความร่วมมือจากสถาบันพัฒนาส่งเสริมปลูกกัญชาทางการแพทย์ ที่พร้อมให้คำแนะนำการปลูกกัญชาที่ได้มาตรฐานระดับสากล ซึ่งเป็นการตอบโจทย์การปลูกกัญชาทางการแพทย์ ดังนั้นนายสันติ ปิยะทัต กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) จึงมีแนวคิดในเชิง CSR ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนสมุนไพรสองธารา ได้แก่ กลุ่มครูเกษียณ จังหวัดนครพนม และภาคีเครือข่าย ได้รวมตัวนำร่องปลูกกัญชาทางการแพทย์ระบบปิดอย่างเต็มรูปแบบ และยังมีวิสาหกิจชุมชนต่าง ๆ หลักแสนหลักล้านคนที่เฝ้าดูความสำเร็จของโครงการดังกล่าว หากแต่ยังขาดความเชื่อมั่นว่าจะเกิดได้จริงหรือไม่ วันนี้กลุ่มครูเกษียณนครพนมกลุ่มนี้ จึงเป็นกลุ่มแรกที่มีความมุ่งมั่น เรียนรู้ และเข้าใจ เรื่องการปลูกกัญชาทางการแพทย์อย่างแท้จริง จึงเข้าร่วมกับสถาบันพัฒนาส่งเสริมปลูกกัญชาทางการแพทย์ ที่มีความชัดเจน สามารถสร้างรายได้ ปลดภาระหนี้สิน ด้วยโครงการดังกล่าวนี้
ด้าน พล.ท.สีหเดช ดีสนธิโชติ อดีตรองผู้อำนวยการ กอ.รมน.จังหวัดเพชรบุรี ในฐานะประธานสถาบันพัฒนาส่งเสริมปลูกกัญชาทางการแพทย์ เผยว่า วันนี้ทางสถาบันฯได้ดำเนินการสร้างโรงเรือนระบบปิดที่ได้มาตรฐานให้พี่น้องเกษตรกรได้เรียนรู้วิธีการปลูกกัญชาทางการแพทย์อย่างถูกต้อง เพื่อให้สามารถสร้างรายได้แก่พี่น้องประชาชน และมีเป้าหมายคือไปสู่ตลาดต่างประเทศ เนื่องจากสถาบันฯ ที่มีที่ตั้งโครงการอยู่ที่ อาคาร Waldo 18 ที่แหลมผักเบี้ย จังหวัดเพชรบุรี นั้น ได้าดำเนินการเป็นระบบ สามารถสกัดสารสำคัญเป็นยาที่มีคุณค่าและเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก
“ในนามของสถาบันฯ อยากให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะหมู่มวลสมาชิกครูเกษียณนครพนม ว่า ถ้าท่านตั้งใจมุ่งมั่น เราพร้อมสนับสนุนแนวทางเพาะปลูกที่ถูกต้องเต็มที่” พล.ท.สีหเดช กล่าว