วิกฤตโควิด-19 ส่งผลกระทบโดยตรงต่อปัญหาเศรษฐกิจครอบครัวยากจนพิเศษ แม้วันนี้สถานการณ์การระบาดโควิด-19 เริ่มดีขึ้น แต่ความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษายังคงอยู่ กลุ่มธุรกิจ TCP เตรียมแผนการช่วยเหลือสังคม ในด้านการศึกษาระยะยาว ผ่าน“TCP ปลุกความรู้สู่โอกาส” เพื่อช่วยสร้างโอกาสทางการศึกษาที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน นำไปสู่โอกาสและปากท้องที่ดีขึ้นในระยะยาว
นายสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP เปิดเผยว่า กลุ่มธุรกิจ วิกฤตโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อแวดวงการศึกษาเป็นอย่างมาก TCPเล็งเห็นความจำเป็นเร่งด่วนในการดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบ จึงผนึกกำลังกับพันธมิตรทางการศึกษาที่หลากหลาย เริ่มจากคณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เปิดตัวโครงการ “TCP ปลุกความรู้สู่โอกาส” โครงการระยะยาวด้านการศึกษา
โดยมีเป้าหมายในการดำเนินโครงการเป็นระยะเวลา 5 ปีเพื่อสนับสนุนทั้งระบบนิเวศการศึกษา ช่วยทั้งครูและนักเรียนด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรทางการศึกษาที่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์การศึกษาแห่งอนาคต ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา สร้างเครื่องมือทางการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ครูและนักเรียนสามารถสร้างสรรค์กระบวนการเรียนการสอนที่มีความหมายและมีความสุข รวมถึงสร้างโอกาสทางการศึกษาให้นักเรียนที่ขาดแคลน
ปัจจุบันมีพันธมิตรเริ่มต้นในสองโครงการ ได้แก่ โครงการดูแลพัฒนาศักยภาพครู “โรงเรียนปล่อยแสง” ที่ร่วมมือกับคณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และโครงการ “สานฝันการศึกษาเพื่อน้อง” ที่ร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ในการมอบทุนการศึกษาแก่เยาวชนเพื่อไม่ให้หลุดจากระบบการศึกษา
นอกจากนี้ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจ TCP ผนึกกำลังกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เร่งให้ความช่วยเหลือดูแลสุขภาพและการศึกษาให้กับเด็กกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ผ่านโครงการกลไกอาสาสมัครคุณภาพอย่างเร่งด่วน
ด้าน รศ.ดร.อนุชาติ พวงสำลี คณบดีคณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยว่า “โครงการโรงเรียนปล่อยแสงมุ่งเน้นการทำงานกับครู เพราะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทั้งหลักสูตรการเรียนการสอนและจะส่งผลต่อผู้เรียนอย่างจริงจัง โดยให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมกับการเตรียมพร้อมกำลังคน รวมถึงการพัฒนาเนื้อหาหลักสูตรและสื่อการเรียนการสอนให้เป็นหลักสูตรฐานสมรรถนะ (Competency-based Curriculum) ซึ่งช่วยให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ได้จริงในชีวิตประจำวัน สอดคล้องกับการเรียนรู้ตลอดชีวิต รวมถึงเชื่อมโยงการเรียนรู้เข้ากับชุมชนและสังคม โดยจะเริ่มจาก 12 โรงเรียนนำร่อง ซึ่งครูที่ผ่านกระบวนการนี้จะสามารถสร้างสรรค์การเรียนรู้แบบใหม่ และจะช่วยวางรากฐานของการศึกษาที่มีความหมายและมีความสุขต่อไป”
ด้าน ดร. ไกรยส ภัทราวาท รองผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ให้ความเห็นว่า “ในแต่ละปีมีเด็กนักเรียนหลุดออกจากระบบการศึกษาไทยจำนวนไม่น้อย ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่เราต้องแก้ไขอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว แต่วิกฤตโควิด-19 ได้ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง เด็กนักเรียนกว่า 40,000 คนได้หลุดออกจากระบบการศึกษา และมีถึง 1.3 ล้านคนที่กำลังเผชิญความเสี่ยงเดียวกัน ทั้งที่เด็กไทยมีศักยภาพสูง
โครงการสานฝันการศึกษาเพื่อน้องที่ กสศ. ร่วมมือกับกลุ่มธุรกิจ TCP จะช่วยสร้างหลักประกันทางการศึกษาเพื่อไม่ให้มีเด็กหลุดออกจากระบบการศึกษาไทยเพิ่มขึ้น พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กๆ กลับมามีความฝันในชีวิตอีกครั้ง โดยโครงการฯ ยังมีการใช้ฐานข้อมูลเพื่อระบุเด็กกลุ่มเสี่ยง และมีการติดตามผลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาตั้งแต่แรกเริ่ม”
ทั้งนี้ ‘โครงการ TCP ปลุกความรู้สู่โอกาส’ วางกรอบการพัฒนาด้านการศึกษาไว้ 3 ด้าน เพื่อพิจารณารับพันธมิตร คือ1. ส่งเสริมวิชาการและความรู้แกนกลางในห้องเรียนอย่างสร้างสรรค์ โดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เหมาะสม
2. ส่งเสริมสมรรถนะและทักษะที่จำเป็นต่อชีวิตด้วยกระบวนการเรียนรู้ทั้งในและนอกห้องเรียน รวมถึงพัฒนาศักยภาพให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปต่อยอดเป็นอาชีพจริงได้ในอนาคต
3. สร้างระบบนิเวศการเรียนรู้ที่สัมพันธ์เชื่อมโยงทั้ง ครู นักเรียน ผู้ปกครอง โรงเรียน บ้าน และชุมชน เพื่อให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาศักยภาพและการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับพื้นที่ของตน
‘โครงการ TCP ปลุกความรู้สู่โอกาส’ วางเป้าหมายตลอดระยะ 5 ปีของโครงการ โดยจะมีครูที่ได้รับการเพิ่มทักษะรวม 500 คน มีนักเรียนที่เข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพรวม 100,000 คน โรงเรียนที่ได้รับประโยชน์ 100 แห่ง และสร้างการมีส่วนร่วมกับ 100 ชุมชนหรือพื้นที่การเรียนรู้ โดยการสร้างสรรค์การศึกษาที่มีประสิทธิภาพถือเป็นการวางรากฐานที่สำคัญในการสร้างทรัพยากรมนุษย์ที่มีศักยภาพ ซึ่งจะเป็นพลังในการขับเคลื่อนพัฒนาประเทศต่อไปอย่างยั่งยืน ทั้งหมดนี้สอดคล้องกับเป้าหมายใหม่ของกลุ่มธุรกิจ TCP ในการ “ปลุกพลัง เพื่อวันที่ดีกว่า”