นางสาวณัฏฐิฏา ภูมิภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Golden triangle health จำกัด หรือ GTH เปิดเผยในงาน Virtual Seminar “สมุนไพรไทย สมุนไพรโลก THAI HUB : THAI HERB” ในหัวข้อเสวนา “3ก” กัญชง กัญชา กระท่อม New S-curve ของ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า GTH ซึ่งถือเป็นบริษัทลูกของ บมจ. เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ หรือ NRF ได้ร่วมมือกันผลักดันผลิตภัณฑ์จาก 3 สมุนไพร กัญชา กัญชง และกระท่อม โดยขณะนี้มีผลิตภัณฑ์จากกัญชา กัญชงออกสู่ตลาดแล้ว แต่ทั้งนี้ ยังมีปัญหาที่ยังติดขัดบ้าง คือ เรื่องของการขอขึ้นทะเบียน ผลิตภัณฑ์จากกระท่อม เนื่องจากกระท่อมเพิ่งได้รับการปลดล็อกจากการเป็นพืชที่มีสารเสพติดได้ไม่นาน แต่อยากให้ สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เร่งแก้ไขปัญหาในจุดนี้ เช่นเดียวกับที่แก้ปัญหาลดขั้นตอนการขอขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์จากกัญชาและกัญชงมาแล้ว
ส่วนในแง่ของการแข่งขัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GTH กล่าวว่า การร่วมลงทุนของ NRF และการได้ผู้สนับสนุนหน้าใหม่จากสหรัฐอเมริกา บริษัท Australis Capital Inc. หรือ AUDACIOUS นำโดยเจ้าพ่อกัญชงระดับโลก เทอร์รี่ บูธ ที่เข้าถือหุ้น 25% ใน GTH ทำให้บริษัทฯ มีความแข็งแกร่งในด้านการสร้างสรรค์ธุรกิจการพัฒนาผลิตภัณฑ์จาก 3 สมุนไพร กัญชา กัญชง และกระท่อมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ และยังมีการสนับสนุนงานวิจัย จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น เข้ามาช่วยเสริม บริษัทจึงมีความพร้อมในการบุกตลาดในต่างประเทศและไทยอย่างเต็มที่ โดยพัฒนาโปรดักส์ให้ตอบโจืย์กับคอนซูเมอร์อินไซด์ของกลุ่มเป้าหมายในประเทศต่างๆ
"ตั้งแต่ปี 2020-2021 เทรนด์เรื่องสุขภาพและธรรมชาติมาแรง คนหันไปพึ่งผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติเพื่อดูแลสุขภาพมากขึ้น ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ที่เราพัฒนาจะมุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์อาหาร และสุขภาพ รวมถึงแพลนต์เบสฟู้ดส์ อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการนำสารสกัดจากกัญชา กัญชง และกระท่อม มาพัฒนาต่อยอด ผ่านการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์" นางสาวณัฏฐิฏากล่าว
ผลิตภัณฑ์ที่ตอนนี้ถือเป็นเรือธงของ NRF ตอนนี้มีทั้งซอสพริก ป็อบคอร์น และยังมีแผนผลิตผลิตภัณฑ์สปา อาทิ น้ำมันนวดจากสารสกัดกัญชง โดยผลิตภัณฑ์ต่างๆ จะเข้าไปตอบโจทย์ความต้องการ ของกลุ่มเป้าหมายในแต่ละประเทศ
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่สนใจเข้าสู่ธุรกิจนี้ ทาง GTH แนะนำว่า ต้องนำจุดแข็งของประเทศไทยที่มี มาสร้างให้แข็งแกร่งมากขึ้น อาทิ สายพันธุ์ กัญชง กัญชา และกระท่อม ซึ่งไทยค่อนข้างได้เปรียบทางด้านสภาพภูมิอากาศ ที่เหมาะสมกับการปลูก และยังสามารถทำทุกอย่างได้ครบวงจร ทั้งปลูก สกัด ทำวิจัย และผลิต ในประเทศ ทำให้ไทยได้เปรียบในเรื่องต้นทุน ที่สามารถแข็งขันในตลาดโลกได้ สิ่งสำคัญคือ มาตรฐาน ที่ต้องทำให้ถูกต้องและเป็นที่ยอมรับของตลาด ซึ่งโอกาสในการขายและทำตลาด ยังมีอีกมาก สำหรับตลาดสมุนไพรไทย