จากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ได้อนุมัติโครงการประกันรายได้เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร 3 โครงการ วงเงินรวม 27,390.09 ล้านบาท โดยหนึ่งในโครงการสำคัญ นั่นก็คือ โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 รอบที่ 1 และมาตรการคู่ขนานโครงการประกันรายได้ เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 วงเงินรวมทั้งสิ้น 18,378.90 ล้านบาท
สำหรับโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 รอบที่ 1 วงเงิน 13,604 ล้านบาท ดูแลเกษตรกรผู้ปลูกข้าวครอบคลุมกว่า 4.68 ล้านคน ประกันรายได้ให้เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2564/65 (รอบที่ 1) กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ปลูกข้าวระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 31 ตุลาคม 2564 ยกเว้นภาคใต้ ระหว่างวันที่ 16 มิถุนายน 2564 – 28 กุมภาพันธ์ 2565
เงื่อนไขจ่ายเงินประกันรายได้ข้าว
โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2564/65 รอบที่ 1 กำหนดราคาและปริมาณประกันรายได้ คือ ราคาความชื้นไม่เกิน 15% ไม่เกินครัวเรือนละ 40 ไร่ ยกเว้นข้าวเจ้า ไม่เกิน 50 ไร่ โดยชดเชยเป็นจำนวนตันในแต่ละชนิดข้าว ดังนี้
ทั้งนี้ เนื่องจากในแต่ละพื้นที่จะแจ้งการเก็บเกี่ยวในช่วงวัน เดือน แตกต่างกันออกไป ขอให้เกษตรกรชาวนาติดตามการแจ้งประกาศวันโอนเงินอีกครั้ง โดยทางสาขา ธกส. ในพื้นที่ที่ทำการเพาะปลูกอีกครั้ง โดยระยะเวลาการจ่ายประกันรายได้ข้าวเปลือก 5 ชนิด คือ เดือนพฤษศจิกายน 2564 – พฤษภาคม 2565
สำหรับการโอนเงินฯ งวดที่ 1 จะโอนให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว 5 ชนิด ที่แจ้งเก็บเกี่ยวผลผลิตเดือนสิงหาคม-ต้นเดือนพฤศจิกายน 2564 นี้โดยเกษตกรชาวนาสามารถตรวจสอบเช็กเงินช่วยเหลือชาวนาได้โดยเข้าไปที่ เว็บไซต์ https://chongkho.inbaac.com/
นอกจากนี้เกษตรกร หรือ ชาวนา ที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวในปี 64/65 ยังสามารถเช็คเงินเกษตรกร เงินช่วยเหลือชาวนาที่ ธ.ก.ส. โอนเข้าบัญชีผ่านแอพพลิเคชัน A-Mobile ของธนาคาร ธ.ก.ส.ได้ด้วย
ขณะที่เกษตรกรที่สมัครใช้บริการ BAAC Connect จะได้รับข้อความแจ้งเตือนผ่าน LINE Official BAAC Family เมื่อเงินเข้าบัญชีเรียบร้อยแล้ว หรือสามารถ เช็คเงินเกษตรกร ตรวจสอบเช็คเงินช่วยเหลือชาวนา ผ่านเว็บไซต์โดยมีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้ เข้าเว็บไซต์ https://chongkho.inbaac.com/ โดยกรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมกดค้นหา สำหรับผู้ที่ได้รับเงินระบบจะขึ้นข้อมูลว่า "โอนเงินเรียบร้อยแล้ว" โดยจะแสดงชื่อโครงการ, เลขที่บัญชี, วันที่โอน, สาขา ธ.ก.ส. และสถานะของเกษตรกรไว้ให้