จากกรณีที่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ดำเนินการปล่อยสินเชื่อปลูกพืชกัญชา ไปก่อนหน้านี้นั้น
และต่อเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2564 ธ.ก.ส.เปิดเผยว่า มีแผนในการปล่อยสินเชื่อสำหรับเกษตรกรผู้เพาะปลูกพืชกัญชง และพืชกระท่อม โดยไม่ได้จำกัดวงเงินด้วยนั้น
ฐานเศรษฐกิจ ตรวจสอบข้อมูลจาก ธ.ก.ส. พบว่า เงื่อนไขการขอสินเชื่อพืชกัญชา จะถูกนำไปใช้เป็นเงื่อนไขในการขอสินเชื่อกัญชง และกระท่อม ด้วยเช่นกันคือ
ต่อมา น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยเมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2564 ว่า รัฐบาลผลักดันโครงการเงินทุนสนับสนุนการเพาะปลูกกัญชาเพื่อการแพทย์ ผ่านสินเชื่อ ธ.ก.ส ที่ชื่อว่า “สินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย” โดยมีรายละเอียดดังนี้
สำหรับเงื่อนไขในการขอสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทยเบื้องต้น คือ
นางสาวรัชดา กล่าวด้วยว่า ล่าสุด(ณ วันที่ 9พ.ย.64) ธ.ก.ส. ได้อนุมัติสินเชื่อวิสาหกิจชุมชนไปแล้วกว่า 10 ราย จาก 157 ราย
รองโฆษกรัฐบาล กล่าวอีกว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ให้ความสำคัญกับการเกษตรไทย โดยเฉพาะค้นหาพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ๆ ตามนโยบายส่งเสริมเกษตร BCG
ซึ่งที่ผ่านมา รัฐบาลได้มีนโยบายเร่งด่วนผลักดันให้กัญชาและกัญชง เป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร จนนำไปสู่การปรับปรุงกฎหมายและออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. 2563 โดยปัจจุบันพืช 3 ก. คือ กัญชง กัญชา กระท่อม ถือเป็นพืชที่เปิดโอกาสให้เกษตรกรสามารถยกระดับกลายเป็นอาชีพทางเลือก”
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งส่งเสริมทักษะให้กับเกษตรกร ตั้งแต่ขั้นตอนการเพาะปลูก กระบวนการผลิตที่ต้องอาศัยความรู้ ความรอบคอบ รวมทั้งความพร้อมของเกษตรกรด้วย เพื่อเตรียมความพร้อมภาคการผลิตรองรับความต้องการในอนาคต โดยสมาคมการค้าอุตสาหกรรมกัญชงไทย (Thai Industrial Hemp Trade Association: TIHTA) ยังมีการประเมินตลาดกัญชง กัญชา และกระท่อมจะมีมูลค่ากว่า 8 แสนล้านบาท ซึ่งจะเป็นตลาดแห่งอนาคตสำหรับเกษตรกรและอุตสาหกรรมการแพทย์และสมุนไพรของไทยด้วย