นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ในช่วง2เดือนที่เหลือของปีนี้ กรมจะเร่งเดินหน้าจัดกิจกรรมเพื่อผลักดันการส่งออกทั้งปีนี้และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยกิจกรรมที่กรมจะจัดมีทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ ประกอบด้วย กิจกรรมเจรจาการค้าออนไลน์ (OBM) ในสินค้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น อาหาร, ผลิตภัณฑ์ยางและไม้ยาง เครื่องประดับ ,ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง
,สินค้าแบรนด์ไทยชั้นนำในกลุ่มอาหาร สุขภาพความงาม ไลฟ์สไตล์ แฟชั่น เฟอร์นิเจอร์ ภายใต้โครงการ Thai GROOVE และ สินค้า BCG ระหว่างวันที่22-26 พ.ย. 64
กิจกรรมส่งเสริมการขายในร้าน TOP Thai Store บนแพลตฟอร์ม e-commerce ชั้นนำของต่างประเทศ (Tmall Global ของจีน /Amazon ของสหรัฐฯ/ Big Basket ของอินเดีย/ Klangthai ของกัมพูชา/ Blibli.com ของอินโดนีเซีย) ช่วงเดือน พ.ย. – ธ.ค. 64
นอกจากนี้ยังมีงานที่เป็นไฮไลน์ปลายปีนี้คือ งานแสดงสินค้าPhuket Gems & Jewelry Fest by Bangkok Gems and Jewelry Fair ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลภูเก็ตเฟสติวัล ระหว่างวันที่ 8-12 ธ.ค. 64 โดยจะมีผู้ซื้อ/ผู้นำเข้าจากต่างประเทศสามารถเข้าร่วมกิจกรรมเจรจาการค้าผ่านช่องทางออนไลน์หรือเดินทางมาเข้าร่วมงานภายใต้ มาตรการภูเก็ตแซนด์บ๊อกซ์
เป็นการจับคู่เจรจาการค้าผ่านระบบออนไลน์ (OBM) ก่อนและระหว่างการจัดงาน วันที่ 29 พฤศจิกายน - วันที่ 5 ธันวาคม 2564 และจะมีกิจกรรมเจรจาการค้าและจำหน่ายปลีก ณ ห้างเซ็นทรัลเฟสติวัล วันที่ 8 – 12 ธันวาคม 2564บริเวณชั้น 1 (แกรนด์ฮอลล์) และมีโซนให้บริการข้อมูลการค้า พื้นที่เจรจาธุรกิจ (business lounge) และหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ GIT (ให้บริการตรวจสอบมาตรฐาน และประชาสัมพันธ์สร้างความมั่นใจ Buy with confidence) เป็นต้น รวมถึงกิจกรรมพิเศษ อาทิ การเยี่ยมชมฟาร์มมุก Phuket Pearl จ.ภูเก็ต สำหรับผู้นำเข้าและนักท่องเที่ยวที่สนใจ โดยจะมี ผู้ประกอบการไทยทีเข้าร่วมงานแสดง 50 บริษัททั่วประเทศ
นอกจากงานแสดงสินค้าในประเทศแล้วกรมยังมีผู้ประกอบการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ ในรูปแบบ hybrid ไม่ว่าจะเป็นงาน Medica ณ ดุสเซิลดอร์ฟ เยอรมนี ระหว่างวนที่15-18 พ.ย. 64 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้ากลุ่มเครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์ และงานสุดท้ายของปีคือ Automechanika ณ ดูไบ UAE (14-16 ธ.ค. 64) ในกลถ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วน อะไหล่และอุปกรณ์ยานยนต์
ส่วนในปีหน้านั้น กรมได้รับงบประมาณปี65 วงเงิน1,842 ล้านบาท ซึ่งในปีหน้ากรมมีกิจกรรมที่จะผลักดันการส่งออก 159 กิจกรรม ซึ่งเป้นในประเทศ74 กิจกรรม แบ่งเป็นรายตลาด เช่น ยุโรปและCIS มี 16 กิจกรรม ,จีน มี13 กิจกรรม , อาเซียน 10 กิจกรรม, อเมริกาเหนือ 7 , เอเชียตะวันออก 7 ,ตะวันออกกลาง 6,เอเชียใต้ 5 ,ลาตินอเมริกา 1 , แอฟริกา 1 ,หลายภูมิภาค 19 กิจกรรม และแบ่งเป็นกลุ่มสินค้า-บริการ เป็นกิจกรรมส่งเสริมธุรกิจบริการจำนวน 15 กิจกรรม และกิจกรรมส่งเสริมสินค้าจำนวน 144 กิจกรรม
โดยมีสินค้าและบริการเป้าหมาย เช่น ธุรกิจบริการ เช่น ดิจิทัลคอนเทนต์ โลจิสติกส์ บริการสุขภาพและสินค้าเกี่ยวเนื่อง บริการสนับสนุนและสินค้าที่เกี่ยวเนื่อง แฟรนไชส์ นักออกแบบ การศึกษา อุตสาหกรรมบริการออกแบบ ธุรกิจ HORECA) กลุ่มสินค้า เช่น สินค้าเกษตรและอาหาร ไม่ว่าจะเป็นอาหารฮาลาล อาหารแห่งอนาคต และออร์แกนิก สินค้า niche market ได้แก่ สินค้าสำหรับผู้สูงอายุ ของตกแต่งบ้าน สินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง สินค้าสำหรับแม่และเด็ก สินค้า OTOP สินค้าแฟชั่น อัญมณีและเครื่องประดับ สินค้าไลฟ์สไตล์ สินค้าอุตสาหกรรม สินค้าและบริการด้านนวัตกรรมและการออกแบบ สินค้า BCG)