นายวรเทพ วงศาสุทธิกุล ประธานและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์คอร์ปอร์เรชั่น (ประเทศไทย) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ราคายางพารา ยังพุ่งต่อเนื่อง ประกอบกับภาคใต้ เข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการ ซึ่งทำให้ราคายังคงมีความแข็งแกร่ง เพราะผลผลิตมีน้อย ทำให้ยางออกสู่ตลาดน้อยมาก เพราะมีฝนตกกว่า 80% ในพื้นที่ อาจจะยาวไปถึงเดือนธันวาคม
ส่วนต่างประเทศ ราคายางแท่งโลกราคาดี และตลาดมีความต้องการสูง เพราะขาดตลาด เพราะประเทศอินโดนีเซีย กับประเทศเวียดนามของมีน้อยมาก “ยางแท่ง” นำไปผลิตยางรถยนต์ ซึ่งตอนนี้ทั่วโลกกำลังผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% หรือ รถยนต์ EV (Electric Vehicle) ซึ่งมีความต้องใช้ยางรถยนต์จำนวนมาก
ส่วนเรื่องตู้คอนเทนเนอร์กับเรือยังคงมีปัญหาเช่นเดิม หรือ มีแต่เรือ แต่ไม่มีตู้คอนเทนเนอร์ เพราะฉะนั้นก็ยังมีปัญหา น้ำยางสด เช่นเดียวกันมีน้อยมาก แต่ภาคตะวันออก เหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ อีสาน น้ำยางเริ่มออกแล้ว ต้องพิจารณาเดือนหน้า ปิดไตรมาสสุดท้าย ค่อยประเมินกันอีกรอบ
ด้านการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) รายงานสถานการณ์ราคายางพาราประมูลเฉลี่ย ณ วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 ตลาดกลางยางพาราฯ "ราคายางแผ่นดิบ" อยู่ที่ 57.26 บาท/กก ราคา "ยางแผ่นรมควัน" อยู่ ที่ 54.14 บาท/กก. ราคายางวันนี้ในภาพรวมปรับตัวเพิ่มขึ้น
โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการที่ ราคาตลาดล่วงหน้าต่างประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นและมีปริมาณ ยางออกสู่ตลาดน้อยเนื่องจากตอนใต้ของประเทศไทยมีฝนตก ต่อเนื่องซึ่งส่งผลกระทบต่อการกรีดยาง อย่างไรก็ตาม ราคายางได้รับปัจจัยกดดันจากการที่ค่าเงินบาทอ่อนค่า เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง
ประกอบกับการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ซึ่งส่งผลให้ค่าขนส่ง มีราคาต้นทุนสูง รวมถึงการขาดแคลนชิบซึ่งส่ผลกระทบต่อ อุตสาหกรรมยางรถยนต์ นักลงทุนต้องติดตามเศรษฐกิจต่อไป