"รถยนต์ไฟฟ้า" โลก ฉุด "ยางแท่ง" ขาดตลาด

15 พ.ย. 2564 | 07:49 น.
อัปเดตล่าสุด :15 พ.ย. 2564 | 14:49 น.

ราคายางพุ่งต่อเนื่อง “วรเทพ” เผย "รถยนต์ไฟฟ้า" โลก ฉุด "ยางแท่ง" ขาดตลาด ประเมินสถานการณ์ภาคใต้ เข้าสู่ฤดูฝน ผลผลิตซัพพลายน้อย ดึงราคาพุ่ง คาดลากยาวถึง เดือนธันวาคม

นายวรเทพ วงศาสุทธิกุล ประธานและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์คอร์ปอร์เรชั่น (ประเทศไทย) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ราคายางพารา ยังพุ่งต่อเนื่อง ประกอบกับภาคใต้ เข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการ ซึ่งทำให้ราคายังคงมีความแข็งแกร่ง เพราะผลผลิตมีน้อย ทำให้ยางออกสู่ตลาดน้อยมาก เพราะมีฝนตกกว่า 80% ในพื้นที่ อาจจะยาวไปถึงเดือนธันวาคม

 

ส่วนต่างประเทศ ราคายางแท่งโลกราคาดี และตลาดมีความต้องการสูง เพราะขาดตลาด เพราะประเทศอินโดนีเซีย กับประเทศเวียดนามของมีน้อยมาก “ยางแท่ง” นำไปผลิตยางรถยนต์ ซึ่งตอนนี้ทั่วโลกกำลังผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% หรือ รถยนต์ EV (Electric Vehicle) ซึ่งมีความต้องใช้ยางรถยนต์จำนวนมาก

 

ส่วนเรื่องตู้คอนเทนเนอร์กับเรือยังคงมีปัญหาเช่นเดิม หรือ มีแต่เรือ แต่ไม่มีตู้คอนเทนเนอร์ เพราะฉะนั้นก็ยังมีปัญหา น้ำยางสด เช่นเดียวกันมีน้อยมาก แต่ภาคตะวันออก เหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ อีสาน น้ำยางเริ่มออกแล้ว ต้องพิจารณาเดือนหน้า ปิดไตรมาสสุดท้าย ค่อยประเมินกันอีกรอบ

รายงานราคายางพารา ณ วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564

 

ด้านการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) รายงานสถานการณ์ราคายางพาราประมูลเฉลี่ย  ณ วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 ตลาดกลางยางพาราฯ  "ราคายางแผ่นดิบ" อยู่ที่ 57.26 บาท/กก ราคา "ยางแผ่นรมควัน" อยู่ ที่ 54.14 บาท/กก. ราคายางวันนี้ในภาพรวมปรับตัวเพิ่มขึ้น 

 

โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการที่ ราคาตลาดล่วงหน้าต่างประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นและมีปริมาณ ยางออกสู่ตลาดน้อยเนื่องจากตอนใต้ของประเทศไทยมีฝนตก ต่อเนื่องซึ่งส่งผลกระทบต่อการกรีดยาง อย่างไรก็ตาม ราคายางได้รับปัจจัยกดดันจากการที่ค่าเงินบาทอ่อนค่า เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง

 

ประกอบกับการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ซึ่งส่งผลให้ค่าขนส่ง มีราคาต้นทุนสูง รวมถึงการขาดแคลนชิบซึ่งส่ผลกระทบต่อ อุตสาหกรรมยางรถยนต์ นักลงทุนต้องติดตามเศรษฐกิจต่อไป