นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เปิดเผยในงานเสวนาเปิดความสำเร็จการเป็นต้นแบบงานบูรณาการสู่การพัฒนาพื้นที่อย่างยั่งยืน หัวข้อการพัฒนาเชิงพาณิชย์ NEO Pattaya ต้นแบบการพัฒนาเชิงพื้นที่สู่มหานครการท่องเที่ยวและการลงทุน จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ว่า ที่ผ่านมาเมืองพัทยาได้ทำงานร่วมกับ สกพอ.และสำนักงานงบประมาณ ตลอดเวลาถือเป็นสิ่งที่ดีที่ทำให้การขับเคลื่อนแผนบูรณาสกพอ.ของพัทยาสามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมาย รวมทั้งการจัดสรรงบประมาณที่จะทำให้โครงการต่างๆสามารถเดินหน้าต่อได้ส่วนของเมืองพัทยามีงบประมาณที่จะดำเนินการโครงการอย่างต่อเนื่อง ขณะที่งบประมาณด้านการสนับสนุนส่วนต่างๆ โดยใช้งบประมาณของเมืองพัทยาในการบริหารจัดการในโครงการ Flag Ship ซึ่งเป็นเป้าหมายของเมืองพัทยา สามารถเดินหน้าสู่ความสำเร็จ รวมทั้งเป็นการทำงานแบบบูรณาการที่ต้องทำงานร่วมกัน
นายสนธยา กล่าวต่อ สำหรับโครงการ NEO พัทยา เป็นโครงการที่เริ่มดำเนินการพร้อมกับโครงการของสกพอ.และดำเนินการพร้อมกับที่ตนได้รับแต่งตั้งจากที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีให้เป็นนายกเมืองพัทยาในปี 2561 เนื่องจากโครงการอีอีซีเป็นเป้าหมายหลักในการขับเคลื่อนโครงการฯ ที่ผ่านมาโมเดลการพัฒนาภาคตะวันออกทั้ง 3 จังหวัด ประกอบด้วย ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา ที่ดำเนินการสร้างเป็นยุทธศาสตร์ NEO พัทยา โฉมใหม่ ใส่ใจไม่ทิ้งกัน เพื่อรองรับอีอีซีในการเป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวและเป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจการลงทุนทั้งอีอีซีและประเทศ รองรับการขยายตัวของประชากรและการรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น การจ้างงานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมีผลต่อการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ถือเป็นโจทย์ว่าจะทำอย่างไรให้เมืองพัทยาเติบโตสามารถรองรับแผนดังกล่าวได้ ทำให้เกิดแผนยุทธศาสตร์ทั้ง 5 ด้านของแนวทางการพัฒนา NEO พัทยา ประกอบด้วย ด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม และการบูรณาการ
“เมื่อเกิดแนวทางยุทธศาสตร์ทั้ง 5 ด้านนั้น สิ่งที่ต้องรองรับคือแผนพัฒนาเมืองพัทยา เบื้องต้นทางพัทยาได้ดำเนินการแผนพัฒนาระหว่างปี 2561-2565 แล้วเสร็จ 1 แผน ขณะที่แผนพัฒนาระหว่างปี 2566-2570 เป็นแผนพัฒนาเมืองพัทยาได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการอีอีซีแล้ว ปัจจุบันทางพัทยามีแผนบูรณาการทั้งหมด 14 แผน ทำให้โครงการแผนพัฒนาเมืองพัทยาตามแนวทาง NEO พัทยาและโครงการพัฒนา Old Town นาเกลือ สามารถขับเคลื่อนให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น เนื่องจากแผนการขับเคลื่อนพัทยาภายใต้อีอีซีที่จะสร้างให้พัทยาเป็นศูนย์กลาง ขณะนี้ทางเมืองพัทยามีโครงการหลักตามแนวทางการพัฒนา NEO พัทยา โครงการพัฒนา Old Town นาเกลือ และโครงการ NEO เกาะล้าน
สำหรับแผนพัฒนาโครงการในเมืองพัทยา ทั้ง 14 โครงการ ปัจจุบันได้ดำเนินการแล้ว 8 โครงการ ซึ่งขอรับจับสรรงบประมาณปี 2565 วงเงิน 77 ล้านบาท ทำให้เกิดมูลค่าการลงทุน 10 เท่า ซึ่งจะต้องดำเนินการร่วมกับภาคเอกชน ทั้งนี้ทั้ง 14 โคงการ จะทำให้เกิดการเจริญเติบโตทางด้านนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ ส่งผลให้เกิดเม็ดเงินลงทุน 470% เช่น โครงการพัฒนา Old Town นาเกลือ ที่ได้มีการศึกษาในเบื้องต้นพบว่ามีนักท่องเที่ยวเข้ามาภายในพื้นที่ จำนวน 300,000 คนต่อปี หลังจากดำเนินการตามโครงการฯแล้วส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาภายในพื้นที่เพิ่มขึ้น จำนวน 1.2 ล้านคนต่อปี และมีรายได้เพิ่มขึ้น 900 ล้านบาทต่อปี จากเดิมที่มีรายได้อยู่ที่ 200 ล้านบาทต่อปี
“ที่ผ่านมาเมืองพัทยาได้ทำงานบูรณาร่วมกับสกพอ.และเข้าสู่แผนบูรณาการในปี 2566 ซึ่งมีอีก 6 โครงการหลัก ที่จะทำให้การขับเคลื่อนตามแนวทางการพัฒนา NEO พัทยา ให้เป็นไปตามแผนของสกพอ. ซึ่งแผนบูรณาของสกพอ.และแนวทางการพัฒนา NEO พัทยา ถือว่าเรามาถูกทาง เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่ามูลค่าการลงทุนในปี 2565 อยู่ที่ 1.6 ล้านล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมูลค่าการลงทุนในปี 2565 อยู่ที่ 2.2 ล้านล้านบาท โดยแผนพัฒนาเมืองพัทยาระหว่างปี 2566-2570 เราจึงให้พัทยาเป็นเมืองแห่งโอกาสในการสร้างเศรษฐกิจให้เกิดความสมดุลและการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีสำหรับทุกคน ซึ่งทำให้เมืองพัทยาเป็น 1 ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 โดยผลักดันให้เป็นการท่องเที่ยวเชิงกีฬา และเตรียมพื้นที่ในการรองรับนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและเป็น MICE CITY ซึ่งเป็นเป้าหมายในยุทธศาสตร์เพื่อการขับเคลื่อนเมืองพัทยาและขับเคลื่อนตามแผนของสกพอ.ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน”