นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมประกาศเป็นนโยบายให้ทุกหน่วยงานในสังกัดนำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในกระบวนการทำงาน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการและประชาชนให้มากยิ่งขึ้น ตามนโยบาย Ease of Doing Business ของรัฐบาล โดยเฉพาะภารกิจด้านการอนุญาตที่ต้องดำเนินการด้วยความรวดเร็ว เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันประชาชนก็สามารถตรวจสอบได้ เช่น รายละเอียดข้อมูลของสินค้าที่ได้มาตรฐาน สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ได้ประกาศให้ผู้รับอนุญาตทุกรายต้องแสดง QR Code คู่กับเครื่องหมายมาตรฐานที่สินค้าด้วย ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ. มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดลักษณะ การทำ วิธีแสดง
และการใช้เครื่องหมายมาตรฐานกับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2563 ที่กำหนดให้ผู้รับอนุญาตทุกราย ต้องแสดงรายละเอียดข้อมูลในใบอนุญาต และข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าที่ได้รับใบอนุญาตในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ คู่กับเครื่องหมายมาตรฐานที่สินค้า หรือ
สิ่งบรรจุ หีบห่อ สิ่งหุ้มห่อด้วยก็ได้ โดยให้เห็นได้ง่ายและชัดเจน ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบและร้องเรียนได้ว่า สินค้าดี มีคุณภาพ และเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลเพื่อคุ้มครองประชาชนให้ปลอดภัยจากการใช้สินค้า
นายบรรจง สุกรีฑา เลขาธิการ สมอ. กล่าวว่า สมอ. มีผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตทั้งที่เป็นผู้ทำในประเทศ และผู้นำเข้ากว่า 10,000 ราย จำนวนใบอนุญาตกว่า 80,000 ฉบับ ครอบคลุมกว่า 800 มาตรฐาน ซึ่งตาม พ.ร.บ.มาตรฐานฯ และกฎกระทรวงฉบับใหม่ กำหนดให้ผู้รับอนุญาตทุกรายจะต้องแสดงรายละเอียดข้อมูลในใบอนุญาต และข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าที่ได้รับใบอนุญาตในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ คู่กับเครื่องหมายมาตรฐานที่สินค้าด้วย
สมอ. จึงได้จัดทำเป็น QR Code เพื่อให้ผู้รับอนุญาตนำไปแสดงบนสินค้าที่ได้รับใบอนุญาต ซึ่งจะทำให้ประชาชนสามารถตรวจสอบรายละเอียดของสินค้าได้ง่ายๆ เพียงสแกน QR Code ก่อนตัดสินใจซื้อ รวมทั้ง เป็นข้อมูลในการตรวจสอบหรือร้องเรียนในกรณีที่สินค้าไม่เป็นไปตามมาตรฐานตามที่ระบุไว้
“สมอ. ขอย้ำเตือนผู้รับใบอนุญาตทุกราย รีบดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย หาก สมอ. ตรวจพบจะตักเตือนก่อนในครั้งแรก และหากยังพบการกระทำผิดซ้ำ จะดำเนินการตามกฎหมายทันที ซึ่งต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 3 แสนบาท และต้องถูกพักใช้ใบอนุญาตอีกด้วย"