นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการร่วมกับบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (GULF) และบริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (PEA ENCOM) เพื่อศึกษาความเป็นไปได้และแนวทางร่วมทุนในธุรกิจไฟฟ้าพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร
ทั้งนี้ การดำเนินการร่วมมือดังกล่าวจะต่อยอดสู่การทำโรงไฟฟ้าที่ผลิตไฟฟ้าใช้เองและขายตรง (Independent Power Supply: IPS) ธุรกิจระบบส่งและจำหน่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Microgrid & Smart Meter) และธุรกิจบริหารจัดการพลังงาน (Energy Platform) ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการใช้ไฟฟ้าของลูกค้าภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มมากขึ้น โดยที่ความร่วมมือครั้งนี้มีกำหนดดระยะเวลา 2 ปี
สำหรับภารกิจหลักของ กนอ. นั้น คือการจัดหาที่ดินและพัฒนาเพื่อจัดตั้งเป็นนิคมอุตสาหกรรม โดยจัดให้มีบริการระบบสาธารณูปโภค และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการประกอบกิจการของภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ ซึ่งระบบไฟฟ้าเป็นปัจจัยหลักของการประกอบกิจการของภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ รวมถึงกิจกรรมเกี่ยวเนื่องของระบบเศรษฐกิจของประเทศ
"ความร่วมมือครั้งนี้วัตถุประสงค์หลักคือ เสริมสร้างเสถียรภาพการให้บริการระบบไฟฟ้าในนิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร และสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ประกอบกิจการและนักลงทุนต่อการให้บริการสาธารณูปโภคของนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งผลการศึกษาดังกล่าวคาดว่าจะก่อให้เกิดประโยชน์ในการเสริมสร้างเสถียรภาพการให้บริการระบบไฟฟ้าของนิคมอุตสาหกรรม และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบกิจการและนักลงทุน ซึ่งเป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าและการลงทุนของประเทศต่อไปในอนาคต"
นางพรทิพา ชินเวชกิจวานิชย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GULF กล่าวว่า ความร่วมมือดังกล่าวสอดคล้องกับการเติบโตทางธุรกิจของกัลฟ์ที่มุ่งแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ โดยกัลฟ์มีความพร้อมทั้งเรื่องเงินทุน เทคโนโลยี และบุคลากร อีกทั้งมีเครือข่ายในธุรกิจพลังงานชั้นนำทั่วโลก ซึ่ง GULF พร้อมพัฒนาและลงทุนในนวัตกรรมพลังงานทั้งการผลิตพลังงานหมุนเวียน และธุรกิจพลังงานระบบดิจิทัล เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานของประเทศให้สอดรับกับการเปลี่ยนผ่านทางพลังงานในอนาคต
นายเขมรัตน์ ศาสตร์ปรีชา รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ PEA ENCOM กล่าว่า การศึกษาและพัฒนาธุรกิจโรงไฟฟ้าถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานและปัจจัยที่สำคัญในการตอบสนองต่อการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับโรงงานอุตสาหกรรม โดยอาศัยความแข็งแกร่งและความร่วมมือระหว่างพันธมิตรในการให้บริการ
และสร้างความมั่นคงด้านการจ่ายไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาความเป็นไปได้ด้านธุรกิจระบบส่งและจำหน่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (IPS Microgrid & Smart Meter) รวมถึงธุรกิจบริหารจัดการพลังงาน (Energy Platform) ซึ่งจะเป็นการพลิกโฉมอุตสาหกรรมพลังงานในอนาคต ให้กลายเป็น Smart Energy อย่างเต็มรูปแบบ