รายงานข่าวเผยว่า บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUPร่วมกับ บริษัท คอนติเนนทอล ไทร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายยางรถยนต์คุณภาพจากประเทศเยอรมนี ได้เปิดตัวโครงการ Solar PV ECO System ในโรงงาน ทั้ง Solar Rooftop, Solar Car park, และ Solar Floating บนพื้นที่โรงงาน ของบริษัท คอนติเนนทอล ไทร์สฯ ภายในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 4 ขนาดกำลังผลิตไฟฟ้า 4.2 เมกะวัตต์ อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 1ธ.ค.2564โดยการติดตั้งระบบดังกล่าวได้แล้วเสร็จตั้งแต่ต้นปี 2564
ดร. นิพนธ์ บุญเดชานันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP เปิดเผยว่า วันนี้ (1 ธ.ค.) ถือเป็นวันดีของบริษัทฯ และบริษัท คอนติเนนทอล ไทร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ที่ได้ร่วมฉลองความสำเร็จในการเป็นพันธมิตร และการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของโครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ครบวงจร
ทั้งนี้ มร.วิกเนช เดวาเซนาพาที ผู้จัดการโรงงาน บริษัท คอนติเนนทอล ไทร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การติดตั้งระบบไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในจังหวัดระยองของบริษัท จะช่วยผลิตไฟฟ้าให้โรงงานได้ถึง 138 GWh ทั้งยังเป็นการช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และช่วยลดต้นทุนการผลิต ให้กับบริษัทได้มากถึง 360 ล้านบาท ภายในอายุการใช้งาน 25 ปี โครงการดังกล่าวสอดคล้องกับกลยุทธ์การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมของเราที่ตั้งเป้าดำเนินการตามนโยบายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เหลือศูนย์ตลอดทั้งกระบวนการผลิต
โดยการติดตั้ง Solar บนหลังคาโรงงาน 2 อาคารของคอนติเนนทอล ไทร์ส (ประเทศไทย) จำนวน 27,400 ตารางเมตร โดยอาคารแรก มีขนาดติดตั้ง 482 กิโลวัตต์ และอาคารที่ 2 มีขนาดติดตั้ง 2,275 กิโลวัตต์ รวมทั้งการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาลานจอดรถ (Solar Carpark) พื้นที่ขนาด 8,400 ตารางเมตร กำลังการผลิตไฟฟ้า 958 กิโลวัตต์ ระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบลอยน้ำ (Solar Floating) บนพื้นที่บ่อน้ำ จำนวน 7,000 ตารางเมตร กำลังการผลิตไฟฟ้า 475 กิโลวัตต์ ทั้งนี้การติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งหมดของคอนติเนนทอล ไทร์ส (ประเทศไทย) คิดเป็นพื้นที่รวม 42,800 ตารางเมตร โดยมีขนาดกำลังผลิตไฟฟ้าคิดเป็น 4.2 เมกะวัตต์ ภายใต้สัญญาในการให้บริการ 15 ปี
ดร.นิพนธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการเติบโตทางธุรกิจทั้งภายในและนอกนิคมอุตสาหกรรม ทั้งในประเทศไทยและประเทศเวียดนาม รวมทั้งศึกษาโอกาสในการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าปี 2564 ว่าจะติดตั้ง Solar Rooftop เพิ่มเติมอีก 40 เมกะวัตต์ จากสิ้นปี 2563 ที่ติดตั้งไปแล้ว 61 เมกะวัตต์ และคาดว่าจะทยอยเปิดดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ประมาณ 22 เมกะวัตต์ ซึ่งหากรวมการลงทุนด้านอื่นๆ จะส่งผลให้บริษัทฯ ตั้งเป้ากำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นของ WHAUP แตะระดับ 670 เมกะวัตต์ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่กำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นของ WHAUP ที่ 590 เมกะวัตต์