ความคืบหน้าโครงการประกันรายได้ข้าว และ “เงินช่วยเหลือชาวนา” ยังมีความต่อเนื่อง นับตั้งแต่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้มีมติเห็นชอบตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่าน จากสถานการณ์ปัญหาราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำลง ทำให้เกษตรกรได้รับผลกระทบจากรายได้ที่ลดลง ซึ่ง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยในปัญหาที่เกิดขึ้น โดยมอบนโยบายให้ส่วนงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร นั้น
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและประธานกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ในวันนี้ (3 ธันวาคม 2564) ธ.ก.ส. จึงได้จัดประชุมคณะกรรมการ ธ.ก.ส. เป็นวาระพิเศษ เพื่อให้ความเห็นชอบกรอบแนวทางการดำเนินงานและอนุมัติวงเงินงบประมาณรวม 138,224.76 ล้านบาท ประกอบด้วย
1) โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 (เพิ่มเติม) จำนวน 74,569.31 ล้านบาท เกษตรกรได้รับประโยชน์กว่า 4.69 ล้านครัวเรือน โดย ธ.ก.ส. จะทำการตรวจสอบข้อมูลของเกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์และดำเนินการโอนเงินประกันรายได้เข้าบัญชีของเกษตรกรโดยตรง ในวันที่ 9 – 13 ธันวาคม 2564
2) โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากภาระต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นและจูงใจให้เกษตรกรดูแลรักษาข้าวให้มีคุณภาพดี เพื่อที่จะมีโอกาสขายข้าวในราคาที่สูงและมีรายได้มากขึ้น โดยสนับสนุนเงินให้เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 รอบที่ 1 กับกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในอัตราไร่ละ 1,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 ไร่ หรือไม่เกิน 20,000 บาทต่อครัวเรือน วงเงินงบประมาณจำนวน 53,871.84 ล้านบาท เป้าหมายเกษตรกรจำนวน 4.57 ล้านครัวเรือน โดยจะเริ่มโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรในวันที่ 13 – 17 ธันวาคม 2564
3) โครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 3 เพื่อให้เกษตรกรชาวสวนยางมีรายได้ที่แน่นอนจากการประกันรายได้ ตามการผลิตแต่ละประเภท ได้แก่ ยางพาราแผ่นดิบคุณภาพดี ประกันราคา 60 บาท/กิโลกรัม น้ำยางสด (DRC 100%) ประกันราคา 57 บาท/กิโลกรัม และยางก้อนถ้วย (DRC 50%) ประกันราคา 23 บาท/กิโลกรัม ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่ วงเงินงบประมาณจำนวน 9,783.61 ล้านบาท เป้าหมายเกษตรกร 1.88 ล้านราย พื้นที่สวนยางกว่า 19.16 ล้านไร่ โดยจะเริ่มโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรในวันที่ 20 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ธ.ก.ส. มีความพร้อมในการดำเนินงานโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว โดยจะเร่งตรวจสอบข้อมูลเกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์ภายในวันที่ 7 ธันวาคม 2564 เตรียมการโอนเงินให้กับเกษตรกรแต่ละรายตามสิทธิ์ที่ได้รับในวันที่ 8 ธันวาคม 2564 และวันที่ 9 ธันวาคม 2564 จะโอนเงินเข้าบัญชีของเกษตรกรและทยอยจ่ายตามรอบการผลิตที่แจ้งถึง 13 ธันวาคม 2564 สำหรับอีก 2 โครงการจะดำเนินการตามวันที่กำหนดต่อไป
ช่องทางตรวจสอบสถานะโอนเงิน
1. เข้าสู่เว็บไซต์ chongkho.inbaac.com ของ ธ.ก.ส. ผ่านเบราว์เซอร์อินเตอร์เน็ตต่างๆ เว็บไซต์สำหรับการเช็คเงินเกษตรกร สามารถเข้าใช้งานได้ผ่านทุกบราวน์เซอร์บนทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และ คอมพิวเตอร์
2. กรอกเลขประจำตัวประชาชน เพื่อใช้ในการเช็คเงินเกษตรกร การเช็คเงินเกษตรกร 2564 เข้าหรือยัง สามารถทราบผลได้ทันทีหลังจากกรอกเลขบัตรประชาชนโดยจะมีรายละเอียดของบัญชี จำนวนเงิน และโครงการของเงินช่วยเหลือที่ได้รับ
วิธีตรวจสอบสถานะโอนเงินเยียวยาเข้าบัญชี
ธนาคารจึงขอความร่วมมือลูกค้าผู้มาใช้บริการในสถานการณ์ที่มีการเฝ้าระวัง การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โคโรน่า (COVID-19) ดังนี้
1. ลูกค้าที่ไม่ประสงค์ถอนเงิน แต่ประสงค์ทราบยอดการโอนเงินสามารถตรวจสอบได้ที่ตู้ปรับสมุดบัญชีของธนาคารหรือแอปพลิเคชั่น A-Mo bile หรือ บริการแจ้งเตือน SMS
2. ลูกค้าที่มีบัตร ATM สามารถถอนเงินผ่านตู้ ATM ทุกธนาคารได้ตลอดเวลา
3. ลูกค้าที่ไม่มีบัตร ATM และมีความประสงค์จะถอนเงินผ่านหน้าเคาน์เตอร์ของธนาคาร ให้มาถอนเงินตามแผนการจ่ายเงินที่กำหนดเพื่อปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมโดยเคร่งครัด
ตรวจสอบสถานะการโอนเงินเข้าบัญชี ธ.ก.ส. คลิกด่วน chongkho.inbaac.com ทราบทันที เงินเข้าหรือยัง โดยไม่ต้องไปธนาคารให้เสียเวลา ทั้งนี้ โดย ธ.ก.ส. จะโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของเกษตรกรในโครงการ "ประกันรายได้ข้าว" และ "เงินช่วยเหลือชาวนา" โอนเข้าบัญชีวันไหน ชัดแล้ว