ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2564 สปป.ลาว โดยท่านพันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรี ได้ทำพิธีตัดริบบิ้นและสับคันโยกรางรถไฟ เปิดใช้งานด่านสินค้าสากล Thanalaeng Dry Port ร่วมกับบรรดา ทูตานุทูต รัฐมนตรี คณะผู้บริหารบริษัท เวียงจันทร์ โลจิสติกส์พาร์ค จำกัด และแขกที่มาร่วมงาน
ท่านจันทอน สิทธิไชย ประธานบริษัท เวียงจันทร์โลจิสติกส์พาร์ค จำกัด ได้กล่าวรายงานเกี่ยวกับประวัติความเป็นมา ของโครงการ Thanalaeng Dry Port และเขตโลจิสติกส์ครบวงจร นครหลวงเวียงจันทร์ ว่า โครงการนี้ เป็นการจัดตั้งส่วนขยายของแนวทางนโยบายของพรรคและรัฐบาลลาว เพื่อต้องการเห็นประเทศที่ไม่มีชายแดนติดกับทะเล ให้กลายเป็นประเทศที่เชื่อมโยงด้านการขนส่งการค้าของภาคพื้นสากล
โดยการรวม 2 องค์ประกอบสำคัญ คือ Dry Port และด่านสากลเข้าด้วยกัน เพื่อให้โครงการนี้เปรียบเสมือนท่าเรือที่ตั้งอยู่บนบก พร้อมอำนวยความสะดวกอย่างสูงสุดเกี่ยวกับการทำกิจกรรม ธุรกรรมในการผ่านแดนสินค้าและสินค้าผ่านแดน
โครงการนี้ได้รับการเห็นชอบจากรัฐบาลและลงนามในสัมปทาน เมื่อเดือนกรกฎาคม 2561 ภายในเนื้อที่ 382 เฮกต้าร์ แบ่งออกเป็น 2 โครงการ ประกอบด้วย การก่อสร้างท่าเรือบกและการสร้างเขตโลจิสติกส์ครบวงจร รวมการลงทุนทั้งสิ้น 727 ล้านดอลล่าสหรัฐ (ท่าเรือบก 180 ล้านดอลล่า และเขตโลจิสติกส์ 547 ล้านดอลล่า) โดยการลงทุนทั้งหมดเป็นการลงทุนโดยเอกชนของ สปป.ลาว 100%
ทั้งนี้ คาดว่า จะสำเร็จทั้งสองโครงการ ภายในอีก 2 ปีข้างหน้า หากสำเร็จ 100% จะเกิดผลดีต่อเศรษฐกิจ-สังคมและประชาชนชาวลาว ทำให้ สปป.ลาว มีโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่ได้มาตรฐาน เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมต่อด้านการขนส่งทางการค้าภายในและสากล อีกทั้งยังเป็นแหล่งรายรับใหม่ที่มั่นคงให้กับรัฐบาลที่รับประกันความโปร่งใสในการเก็บรายรับเข้างบประมาณ ลดต้นทุนการขนส่งต่อการค้าอย่างน้อย 50% และสร้างงานผ่านกิจกรรมด้านโลจิสติกส์
ท่านเวียงสวรรค์ สีพันดอน รัฐมนตรีกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง กล่าวว่า การก่อสร้างและการให้บริการด่านสินค้าสากลท่าเรือบกท่านาแล้ง เป็นผลสำเร็จในการสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานและการบริการที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ
ด่านแห่งนี้เป็นจุดสำคัญในการลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ เพื่อสามารถแข่งขันและเพิ่มศักยภาพทางด้านการค้า การขนส่ง พร้อมทั้งดึงดูดและส่งเสริมการลงทุนของผู้ประกอบการต่างชาติ ให้เข้ามาทำการผลิตและดำเนินการด้านการค้า การบริการด้านโลจิสติกส์ อันเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อน เศรษฐกิจของ สปป.ลาว ให้เจริญเติบโตได้รวดเร็วขึ้น
เพื่อให้พิธีการดังกล่าวมีความสำคัญมากขึ้น ภายในงานยังได้มีการปล่อยขบวนรถขนส่งสินค้า เพื่อไปยัง 3 ประเทศคือ เวียดนาม กัมพูชา และประเทศไทย เป็นรอบปฐมฤกษ์