นายถนอมเกียรติ ยิ่งฉ้วน ที่ปรึกษาประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย เผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในรอบ 3-4 วัน น้ำยางสด ร่วงลงมา 10-12 บาท/กิโลกรัม ปรับลดลงมาเป็นอย่างมาก อยากให้กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ และการยางแห่งประเทศไทย ร่วมมือทุกภาคส่วนหน่วยงานรัฐให้ไปรื้อสัญญาซื้อขายน้ำยางข้นของบริษัททุกบริษัทที่ส่งออก
"เหตุผลว่าในการซื้อขายยาง ในรูปแบบ "น้ำยางข้น" เป็นการซื้อขายยางล่วงหน้า ไม่ได้เป็นการซื้อขายวันต่อวัน เพราะฉะนั้นเมื่อขายได้ในราคาที่สูงอยู่แล้ว ทำไมต้องมาทุบราคาในประเทศ แล้วเกรงว่าในวันเสาร์-อาทิตย์ นี้ที่ชาวสวนไม่ได้ขายตลาดกลาง กยท. (ตลาดปิด) จะไปขายนอกตลาด จะถือโอกาสทุบอีกเพราะเป็นวันพรุ่งนี้ (11-12 ธ.ค.64) เป็นวันหยุด เสาร์ –อาทิตย์"
“วันนี้น้ำยางสดออกมาเป็นกว่าล้านกิโลกรัม หากทุบ กิโลกรัมละ 2 บาท จะได้กำไร เท่าไร และ ถ้าคิดในรอบ 1 เดือนที่โดนทุบมาต่อเนื่องความเสียหายกว่า หมื่นล้านบาท เพราะฉะนั้นการสูญเสีย 1.เกษตรกรสูญเสียทั่วประเทศกว่าหมื่นล้านบาท"
2.การเก็บภาษีต่ำลง ดั้งต้องเร่งกรมการค้าภายใน กยท. เข้าตรวจสอบสัญญาซื้อขาย ให้นำ พ.ร.บ.ควบคุมยางฯ มาใช้ควบคู่ด้วย เพราะจะเป็นเครื่องมือหนึ่งควบคุมดูแลปัญหาของราคายางได้อยู่แล้วโดยตรง แต่ถ้าไม่มีอะไรคืบหน้า วันจันทร์ที่จะถึงนี้มีประชุมเครือข่ายฯ อาจจะเดินทางไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพราะเราไม่ยอมแน่นอน”
การยางแห่งประเทศไทย รายงานสถานการณ์ราคายางพารา ในภาพรวมปรับตัวลดลง โดยได้รับปัจจัยกดดันจากการที่ ค่าเงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและการขาด แคลนตู้คอนเทนเนอร์ขนส่งยาง ประกอบกับการขาดแคลนชิป ที่ใช้ในการผลิตรถยนต์ รวมถึงมีปริมาณยางเข้าสู่ตลาดเยอะ เนื่องจากทางตอนใต้ของประเทศไทยหมดช่วงฝนตก
อย่างไรก็ ตาม ราคายางได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการที่ราคาตลาด ล่วงหน้าต่างประเทศและราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับนักลงทุนยังคงต้องการยางเพื่อส่งมอบอยู่ นักลงทุนยังคงต้องติดตามเศรษฐกิจโลกต่อไป