ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามติคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 64 มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ….) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ และให้ กค. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
สำหรับสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวงที่น่าสนใจ มีดังนี้
กำหนดนิยามคำว่า “ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์” “ใบรับอิเล็กทรอนิกส์” “ผู้ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์” “ผู้ออกใบรับอิเล็กทรอนิกส์” “ผู้ให้บริการจัดทำข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์” และ “ผู้ให้บริการนำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์”
กำหนดให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนหรือผู้มีหน้าที่ออกใบรับที่ประสงค์จะจัดทำ ส่ง รับและเก็บรักษาใบกำกับภาษีหรือใบรับด้วยกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์ ต้องยื่นคำร้องขอและได้รับอนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากรตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด
กำหนดให้ผู้ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และผู้ออกใบรับอิเล็กทรอนิกส์ต้องดำเนินการเกี่ยวกับการจัดทำ ส่ง รับ และเก็บรักษาใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ เช่น
กำหนดให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนหรือผู้มีหน้าที่ออกใบรับ อาจจัดทำ ส่ง รับ และเก็บรักษาใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ โดยกระทำผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของหน่วยงานหรือบุคคลที่จัดให้มีกระบวนการหรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถกระทำต่อข้อมูลใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อรับรองความมีอยู่ของข้อมูลใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ ณ ขณะที่มีการส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบ และสามารถตรวจพบได้หากมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ ได้นับแต่เวลาที่ได้มีการรับรอง ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และคุณสมบัติที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด
กำหนดให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนหรือผู้มีหน้าที่ออกใบรับ ซึ่งมีสิทธิในการจัดทำ ส่ง รับ และเก็บรักษาใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ตามระเบียบกรมสรรพากร ว่าด้วยการจัดทำ ส่งมอบ และเก็บรักษาใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบ e-Tax Invoice by Email พ.ศ. 2560 และประกาศอธิบดีกรมสรรพากร (ฉบับที่ 15) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจัดทำ ส่งมอบ และเก็บรักษาใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ ลงวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2562 อยู่ก่อนกฎกระทรวงนี้ ให้ยังคงเป็นผู้มีสิทธิออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ตามกฎกระทรวงนี้
ฐานเศรษฐกิจ ตรวจสอบมติครม. ดังกล่าวอีกว่า ในที่ประชุมครม. กระทรวงการคลังเสนอต่อที่ประชุมว่า โดยที่มาตรา 3 โสฬส แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 53) พ.ศ. 2564 ได้กำหนดให้บรรดาหมายเรียกหนังสือแจ้งให้เสียภาษีอากร แบบ ใบกำกับภาษี รายงาน เอกสารหลักฐานหรือหนังสืออื่นใดที่ต้องมี
จัดทำ หรือใช้ ตามที่บัญญัติในประมวลรัษฎากร และบรรดาเอกสารหลักฐาน หรือหนังสือที่กรมสรรพากรต้องใช้ในการติดต่อกับผู้เสียภาษีอากรหรือบุคคลใด หรือที่ผู้เสียภาษีอากรหรือบุคคลใดต้องใช้ในการติดต่อกับกรมสรรพากร อาจกระทำด้วยกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้ ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง
ปัจจุบันกระทรวงการคลังได้มีระเบียบกรมสรรพากร ว่าด้วยการจัดทำ ส่งมอบ และเก็บรักษาใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบ e-Tax Invoice by Email พ.ศ. 2560 และประกาศอธิบดีกรมสรรพากร (ฉบับที่ 15) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจัดทำ ส่งมอบ และเก็บรักษาใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ ลงวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2562 สำหรับใช้ในการดำเนินการทางอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว
ดังนั้น เพื่อเป็นการสนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนหรือผู้มีหน้าที่ออกใบรับ สามารถดำเนินการจัดทำ ส่ง รับ และเก็บรักษาใบกำกับภาษีหรือใบรับด้วยกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นไปอย่างต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับรูปแบบการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
รวมทั้งเพื่อให้เป็นไปตามมาตรา 3 โสฬส แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 53) พ.ศ. 2564 กระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว จึงได้ยกร่างกฎกระทรวงฉบับที่ .. (พ.ศ. ….) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ ขึ้น เพื่อรองรับกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว
นอกจากนี้กระทรวงการคลังได้พิจารณาการสูญเสียรายได้และประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ตามมาตรา 27 และมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 แล้ว โดยเห็นว่าไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของรัฐ
เนื่องจากการออกกฎกระทรวงเป็นเพียงการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจัดทำ ส่ง รับ และเก็บรักษาใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ จึงไม่ก่อให้เกิดการสูญเสียรายได้ของรัฐแต่อย่างใด แต่จะเป็นการอำนวยความสะดวก ลดขั้นตอน และลดต้นทุนการเสียภาษีของผู้ประกอบการในการจัดทำ ส่ง รับ และเก็บรักษาใบกำกับภาษีหรือใบรับด้วยกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์ อันเป็นการช่วยยกระดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ส่งเสริมการเป็นเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ
และช่วยยกระดับรูปแบบการให้บริการของหน่วยงานภาครัฐให้มีความเป็นมาตรฐาน มีความทันสมัย นำไปสู่การเป็น Digital Government รวมทั้งสนับสนุนให้ภาครัฐมีฐานข้อมูลภาษีที่ครบถ้วนมากขึ้น โดยสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการวิเคราะห์เพื่อกำหนดนโยบายเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ