นายคึกฤทธิ์ อารีปกรณ์ ผู้จัดการสมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทย เผยว่า ไทยในฐานะผู้ส่งออกเนื้อไก่รายใหญ่อันดับ 4 ของโลก ให้ความสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมส่งออกเนื้อไก่มาโดยตลอด ทั้งการปฏิบัติตามข้อกำหนดทางการเกษตรที่ดี (Good Agricultural Practices : GAP) ตั้งแต่องค์ประกอบของฟาร์ม เช่น อาหาร น้ำ การจัดการฟาร์ม การจัดการสวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare) และสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งเสริมไก่ให้มีสุขภาพดี ปราศจากยาปฏิชีวนะ ตามมาตรฐานฟาร์มของกรมปศุสัตว์อย่างเข้มงวดตลอดห่วงโซ่การผลิต ส่งผลดีต่อเนื้อไก่และเหมาะสมในการนำไปผลิตเป็นอาหารที่ปลอดภัยสำหรับการบริโภค
นอกจากนี้ ผู้ส่งออกเนื้อไก่ไทยต้องผ่านการรับรองมาตรฐานฟาร์มที่ดีจากกรมปศุสัตว์ โดยเนื้อไก่ที่นำไปผลิตอาหารต้องมาจากฟาร์มที่ตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เสี่ยงจากการปนเปื้อนของอันตรายทางกายภาพ เคมีและชีวภาพ ที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขอนามัยของไก่ ไม่เลี้ยงไก่หนาแน่นเพื่อให้ไก่อยู่สบาย และสัตว์ต้องได้รับการดูแลอย่างดีตั้งแต่ฟาร์มจนถึงโรงงานแปรรูปไม่ให้มีการทรมานสัตว์ตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ เป็นต้น
สำหรับในปี 2564 สมาคมฯ ตั้งเป้าส่งออกไก่สดแช่เย็นแช่แข็งและไก่แปรรูป รวม 900,000 ตัน มูลค่า 101,000 ล้านบาท จากในปี 2563 กระทรวงพาณิชย์รายงานว่า ไทยเป็นผู้ส่งออกเนื้อไก่อันดับที่ 4 ของโลก รองจากบราซิล สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป โดยไทยมีปริมาณส่งออกสินค้าเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 981,089 ตัน มูลค่า 107,828 ล้านบาท
ทั้งนี้ไทยคุมเข้มมาตรฐานการผลิตและการส่งออกเนื้อไก่ในระดับสูง โดยเฉพาะตลาดหลักของไทย คือ ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นตลาดที่มีกฎเกณฑ์ด้านสุขอนามัย (SPS)สูงมาก ทั้งมาตรฐานฟาร์มและการปฏิบัติตามหลักสวัสดิภาพสัตว์อย่างเท่าเทียม ซึ่งผู้ส่งออกไทยผ่านการรับรองมาตรฐานตามข้อกำหนดทั้งหมด และผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานสากลที่ได้รับมอบหมายจากลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจากการผ่านการตรวจสอบมาตรฐานอย่างต่อเนื่องจากกรมปศุสัตว์ ทั้งมาตรฐานฟาร์มและโรงงาน ให้มีการปฏิบัติตามมาตรฐานในประเทศและมาตรฐานสากลอย่างเคร่งครัด ได้สร้างหลักประกันอาหารปลอดภัยเป็นที่ยอมรับจากผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศและในมาตรฐานเดียวกัน