ปี 2565 ประชาชนที่เป็นผู้บริโภคอ่วม เนื่องจากจะหมดระยะเวลาที่รัฐบาลขอความร่วมมือผู้ผลิตสินค้า และบริการในการตรึงราคาสินค้าหลายชนิด และจะสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาล
ทั้งนี้ ผู้ผลิตสินค้าอุปโภค บริโภคทั่วไปหลายรายการ ส่งสัญญาณปรับขึ้นราคา หลังพ้นระยะเวลาที่กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ขอความร่วมมือ
จะมีอะไรที่ปรับราคาขึ้นมา "ฐานเศรษฐกิจ" รวบรวมข้อมูลเอาไว้ให้แล้ว ประกอบด้วย
ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศ โดยเฉพาะน้ำมันดีเซลที่คณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กบง.) ขอให้ผู้ค้าคงค่าการตลาดน้ำมันดังกล่าวไว้ไม่เกิน 1.40 บาทต่อลิตร และให้รัฐตรึงราคาขายปลีกไว้ที่ 28 บาทต่อลิตรจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 65
ขณะที่ก๊าซหุงต้ม (LPG) ที่เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันในตลาดโลก กบง. ได้มีมาตรการตึงราคาขายไว้่ที่ 318 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัมจนถึงสิ้นเดือนมกราคา 65
ส่วน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้มีการสนับสนุนส่วนลดค่าซื้อ LPG สำหรับผู้มีรายได้น้อย ร้านค้า หาบเร่ และแผงลอยขายอาหารที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นเงิน 100 บาทต่อคนต่อเดือนนั้น ก็จะสิ้นสุดเดือนมกราคม 65
นอกจากนี้ ปตท. จะคงราคาขายปลีกก๊าซธรรชาติ (NGV) ให้กับผู้มีรายได้น้อยที่ 15.59 บาทต่อกิโลกรัม จนถึงวันที่ 15 ก.พ. 65
เมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าว และรัฐบาลไม่มีมาตรการช่วยเหลือต่อก็มีแนวโน้มที่ราคาสินค้าจะขยับขึ้นอย่างแน่นอน เพราะต้นทุนจะเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะวัตถุดิบที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน เช่น เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก ซึ่งประเทศไทยต้องนำเข้ามาผลิตสินค้าสำเร็จรูป
อย่างไรก็ตาม มีนักวิเคราะห์หลายรายคาดการณ์ว่าปี 65 ราคาน้ำมันดิบยังทรงตัวในระดับสูงไม่กลับไปที่ประมาณ 40 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล เหมือนปี 62-63 เหมือนเดิม โดยคาดว่าช่วงต้นปี 65 ราคาน่าจะอยู่ที่ประมาณ 80 เหรียญต่อบาร์เรล และเฉลี่ยทั้งปี 65 น่าจะอยู่ที่ 67-75 เหรียญต่อบาร์เรล
อย่างไรก็ดี ที่มีการส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นแน่นอนตั้งแต่ก่อนช่วงก่อนปลายปี 64 ก็คือ ค่าไฟฟ้า โดยคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปร หรือค่าเอฟที (FT) ซึ่งจะเรียกเก็บที่ 1.39 สตางค์ต่อหน่วย โดยจะส่งผลให้ค่าไฟฟ้าฐานเฉลี่ยที่เก็บจากประชาชนขยับมาอยู่ที่ 3.78 บาทต่อหน่วย ในงวดเดือน ม.ค.-เม.ย.65 จากงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.64 ที่เคยจัดเก็บ 3.61 บาทต่อหน่วย โดยเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบ 2 ปี ซึ่งมีเหตุผลจากราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้น
ค่าโดยสารสาธารณะบางส่วนได้มีการปรับขึ้นแล้ว เช่น ค่ามอเตอร์ไซด์รับจ้าง โดยบางวินปรับขึ้นแล้วตั้งแต่ปี 64 อย่างน้อยระยะทางละ 5 บาท หากในปี 65 รัฐบาลไม่มีมาตรการช่วยเหลือ ก็มีแนวโน้มจะปรับราคาขึ้นอีก
ค่ารถไฟฟ้า และและรถไใต้ดินก้อยู่ในระดับสูง เช่น รถไฟฟ้าบีทีเอส 16-44 บาท แต่ในส่วนต่อขยายช่วงหมอชิต-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะคิดอัตราเดียวที่ 104 บาทตลอดเส้นทางหรือไม่ ส่วนสายสีน้ำเงิน 17-42 บาท เป็นต้น
ค่ารถเมล์ร้อนและรถปรับอากาศทั้งของ ขสมก.และรถร่วมบริการอยู่ที่ 8-25 บาท ค่าเรือด่วนเจ้าพระยา 9-32 บาท และค่าเรือคลองแสนแสบ 9-19 บาท