วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 รายงานข่าวจากจังหวัดกระบี่ มีการเดินถือป้ายขอคัดค้านน้ำมันปาล์ม ผ่านแดนทางด่านสะเดา ห่วงเรื่องการสวมสิทธิ์ สวมรอย น้ำมันปาล์มเถื่อน ทำร้ายชาวสวนปาล์ม อย่ามองว่า "เกษตรกร" อะไรก็ได้ ชาวสวนปาล์มและกลุ่มแกนนำได้ติดตามเรื่องปาล์มมาตลอดและมีข้อมูลอย่างเห็นได้ชัดว่า การเปิดด่านที่สะเดาให้ สปป. ลาว ผ่านนั้นคือก็เปิดช่องให้กลุ่มน้ำมันปาล์มเถื่อน สวมรอย สวมสิทธิ์ แอบอ้าง เหมือนกับเปิดรูรั่วให้น้ำชั่วแทรงซึม หากเปิดจริงถือได้การสมรู้ร่วมคิดทำลายสินค้าเกษตรปาล์มน้ำมัน
ทั้งๆเมื่อก่อนก็เคยคุยกันมาแล้ว การเปิดด่านครั้งนี้เชื่อได้ว่ารัฐควบคุมไม่ได้ ดังที่เห็นผ่านมาและตัวอย่างมี เช่น กนป.อนุมัติให้ชดเชยส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ หรือ ซีพีโอ กิโลกรัมละ 2 บาท และกลับแอบ ส่งออกน้ำมันเม็ดในบวกค่าส่งให้ด้วยทั้งที่ กนป.ไม่ได้พิจารณาเรื่องนี้เลย
เมื่อเปรียบเทียบ ประเทศเพื่อบ้านปกป้องเกษตรช่วยเหลือเกษตรกร แต่ประเทศเราช่วยเหลือนายทุนเป็นตัวตั้ง ใช้ระบบ "ตบจูบ" กล่าวคือ ตบคือให้พอค้ากดขี่เอาเปรียบสารพัดมองดูเฉยๆ แล้วมาโอบจูบโดยชดเชยประกันรายได้เกษตรกรอย่างต่ำๆโดยเอาเงินของรัฐมาใช้ทั้งที่สามารถทำได้โดยไม่มีความจำเป็น ต้องเอาเงินมาใช้
เราชาวสวนปาล์ม จึงมองว่าการเปิดด่านที่สะเดาคือการทำลายชาวสวนปาล์มที่คน พวกเราจึงหวังว่า "พล อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” ชายชาติทหารที่แกร่งกล้า ท่านได้ปฏิญาณตนต่อองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไว้ จะดูแลทุกข์สุขความเดือนร้อนตามความต้องการของพี่น้องประชาชน ตามคำปฎิญาณ ท่าน คงไม่ตกกระไดพลอยโจน เพราะท่านรับปากแล้วจะดูแลพี่น้องชาวสวนปาล์ม ซึ่งชาวสวนปาล์มก็จะดูแลท่านในการเลือกตั้งครั้งหน้า เฉกเช่นเดียวกัน
วันเดียวกัน อีกด้านหนึ่ง นายเกรียงไกร นาคสุวรรณ เกษตรกรชาวสวนปาล์มสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ไปยื่นหนังสือที่ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ สนามบินน้ำ กรุงเทพฯ
เกษตรกรกลุ่มคนปลูกปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย โพสต์สาเหตุการปรับราคาปาล์มลงไปเรื่อย ๆ เพราะพรรคของประกันรายได้ไว้ที่กิโล 4 บาท หากปล่อยให้ราคาสูงตามตลาดโลก เกรงว่าเกษตรกรชาวสวนปาล์มไทยจะไม่ได้รับประโยชน์จากนโยบายที่พรรคที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา..!!
สถานการณ์ราคาปาล์ม ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 ราคายังคงปรับตัวลดลง