การระบาดเชื้อโควิด-19 ฉุดเศรษฐกิจควํ่าคะมำ ธุรกิจหลายประเภทโดยเฉพาะด้านท่องเที่ยวและที่เกี่ยวเนื่องกระทบหนัก แต่ห้างยงสงวน ยักษ์ค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค และ “ดูโฮม” ยักษ์ค้าวัสดุก่อสร้างและของใช้ในบ้านซึ่งมีฐานจากอุบลราชธานี ยังเติบโตแข็งแกร่งและเดินหน้ารุกธุรกิจไม่ยั้ง
นางมลิวัลย์ ไชยสงคราม รองประธานบริหารฯ ห้างยงสงวน ห้างค้าปลีกแถวหน้าของจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า โดยภาพรวมยงสงวนไม่ได้รับผลกระทบ ตรงกันข้ามกลับมีโอกาส ยอดขายเติบโตดีต่อเนื่อง เพราะสินค้าของห้างที่มีหลากหลายในหมวดอุปโภค ซึ่งเป็นปัจจัย 4 ในการดำรงชีวิต
อีกทั้งทางห้างตอบสนองภาครัฐที่ออกมาตรการต่างๆ ช่วยเพิ่มกำลังซื้อประชาชน ทำให้คนมีโอกาสจับจ่ายซื้อสินค้า รวมถึงการค้าขายกับลาว ที่บรรยากาศการค้ามีการขยายตัวขึ้นมาจากปีก่อนๆ ทำให้ยอดขายของปี 2564 ที่ผันผวนตลอดปียังโตได้ที่ 12.48%
ห้างยงสงวน เริ่มต้นเมื่อปี 2517 เป็นร้านโชวห่วยชื่อ “โค๊วยงง้วน” ขายของชำอยู่ริมแม่นํ้า มูล ย่านท่ากวางตุ้ง ถนนพรหมเทพ ที่ช่วงหนึ่งต้องล้มลุกคลุกคลาน จากเหตุไฟไหม้ใหญ่ย่านนั้น ต้องเริ่มต้นใหม่
จนถึงปี 2537 เปลี่ยนแปลงใหญ่สู่ยุคใหม่เต็มตัว ในการขึ้นตึกหลังใหม่ ที่อยู่ตรงข้ามกันกับร้านเก่า ในชื่อใหม่ว่า “ห้างยงสงวน ช้อปปิ้งมอลล์” ก่อนย้ายมาฝั่งวารินชำราบยุคปัจจุบัน
นอกจาก “ยงสงวนช้อปปิ้งมอลล์” ห้างสรรพสินค้า สำนักงานใหญ่ และศูนย์กระจายสินค้า ตั้งอยู่ที่ถนนอุบลฯ-วาริน ชำราบ แล้ว ยังมีสาขาย่อยในชื่อ“ยงสงวนเซฟแลนด์” กระจายอยู่ทุกมุมเมืองอีกราว 20 สาขา ทั้งเขตเมืองอุบลและเมืองวารินชำราบ
จากการเติบโตแข็งแกร่ง เวลานี้เป็นช่วงเปลี่ยนแปลงระบบบริหารภายใน เพื่อจะนำโครงสร้างสมัยใหม่เข้ามาใช้ ให้ทันรองรับกำลังซื้อที่มีเพิ่มเข้ามามากยิ่งขึ้นรวมถึงการเตรียมตัวนำกิจการของห้างเข้าซื้อขายหุ้นในตลาดหลัก ทรัพย์ เป็นบริษัทมหาชนในอนาคตอันใกล้นี้ เพื่อให้เป็นสากลมากที่สุด
ด้านบริษัทดูโฮม จำกัด (มหาชน) ของนายอดิศักดิ์-นางนาตยา ตั้งมิตรประชา ผู้ก่อตั้งและ ประธานกรรมการบริหาร ก็เช่นกัน กล่าวว่าการระบาดของโควิด-19 ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อธุรกิจ ยอดขายยังคงเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ เนื่องจากสินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้าง สินค้าอุปโภคอื่นๆ ยังจำเป็นต่อการดำรงชีวิต แม้มีการระบาด ลูกค้ายังจำเป็นต้องสร้างบ้าน หรือปรับปรุงซ่อมแซมบ้านต่อเนื่อง ทำให้ดูโฮมมียอดขายทำกำไรได้ดี
นโยบายของ “ดูโฮม” เป็นไปตามสโลแกนที่ว่า “ครบ ถูก ดี” ปัจจุบันมีมากกว่า 20,000 SKU เช่นเครื่องมือช่าง ฮาร์ดแวร์ ประตู-หน้าต่าง วัสดุปูพื้น ผนัง เกษตรสวน-อุปกรณ์ ประปา สุขภัณฑ์ และเฟอร์นิเจอร์ ที่ต้องให้มีสัดส่วนมากขึ้น จาก 16.5% เป็น 20% ในปี 2565 การเพิ่มรายได้ของสินค้า Housebrand สร้างความเข้มแข็งการขายทางออนไลน์ รวมทั้งสร้างศูนย์กระจายสินค้า (DC) เพื่อช่วยลดต้นทุน เพิ่มสัดส่วนกำไรในอนาคต
ดูโฮมเริ่มเมื่อปี 2526 จากร้านวัสดุก่อสร้างห้องแถวเล็กๆ ในเมืองอุบลฯ ก่อนย้ายมาที่ อ.วารินชำราบ พัฒนาสู่ร้านขนาดใหญ่ และจดทะเบียนจัดตั้งขึ้น ในชื่อบริษัท อุบลวัสดุ จำกัด
จากนั้นได้ขยายสาขาขนาดใหญ่ ประมาณ 22,000-65,000 ตารางเมตร เข้าไปในจังหวัดใหญ่ๆเช่น อุดรธานี ขอนแก่น เชียงใหม่ก่อนจะค่อยรุกคืบมาภาคกลาง ยึดหัวหาดในทำเลสำคัญรอบกรุงเทพฯ อาทิเช่น สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา นนทบุรี ปทุมธานี
ปี 2562 เข้าไประดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เพิ่มความแข็งแกร่งพร้อมแข่งขันในธุรกิจวัสดุก่อสร้างอย่างจริงจัง โดยบุกเปิดสาขาขนาดเล็ก พื้นที่เฉลี่ย ต่อสาขาที่ 300-1,000 ตารางเมตรในชื่อ Dohome ToGo ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ในพื้นที่ศูนย์การค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต และไฮเปอร์มาร์เก็ต ถึง 11 สาขา เพื่อเจาะตลาดคนเมือง
เมื่อสิ้นปี 2563 ดูโฮมมีทั้งหมด 23 สาขา โดยในปี 2564 เปิดสาขาขนาดใหญ่ที่แหลมฉบังและบ่อวินในชลบุรี และอีก 2 สาขาที่จะทะยอยเปิดได้แก่ สาขาอมตะนคร ชลบุรี และสุราษฎร์ธานี
“ฟอร์บส์” นิตยสารธุรกิจการเงินชื่อดังของสหรัฐฯ จัดอันดับมหาเศรษฐีไทย ให้นายอดิศักดิ์- นางนาตยา ตั้งมิตรประชา บอสใหญ่ “ดูโฮม” ติดอันดับที่ 29 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 1.27 พันล้านดอลลาร์ (3.98 หมื่นล้านบาท) เป็นการติด 1 ใน 50 มหาเศรษฐีไทยครั้งแรก หลังทำธุรกิจนี้มานาน 38 ปี
ส่วนการขับเคลื่อนองค์กรเติบโตต่อไปนั้น วันนี้ลูกทั้ง 3 คนคือ อริยา ตั้งมิตรประชา สลิลทิพ เรืองสุทธิภา และมารวย ตั้งมิตรประชา เป็นกำลังสำคัญที่จะรับไม้ต่อ เป็นอีกหนึ่งเศรษฐีที่บ่มเพาะธุรกิจจากหัวเมือง เติบโตขยายตัวจนพร้อมแข่งยักษ์ใหญ่เมืองไทยทุกราย
ชลธิษ จันทร์สิงห์/รายงาน
หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,754 วันที่ 3-5 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2565