DGA กางแผนปี 65 ใส่เกียร์ห้าดัน "รัฐบาลดิจิทัล" เต็มสูบ

07 ก.พ. 2565 | 06:12 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ก.พ. 2565 | 13:23 น.

ดันแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลฉบับใหญ่ 5 ปี สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ DGA หวังไทยขึ้นอันดับ 2 ของอาเซียน ประชาชนพอใจบริการรัฐเกิน 80%

นายสุพจน์ เธียรวุฒิ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ DGA เปิดเผยแผนการดำเนินงานในปี 2565 ว่า DGA ได้กำหนดแนวทางการขับเคลื่อนงานสำคัญเกี่ยวกับงานด้านรัฐบาลดิจิทัล 6 เรื่อง คือการศึกษา สุขภาพและการแพทย์ การเกษตร การส่งเสริมเอสเอ็มอี การมีส่วนร่วมโปร่งใสและตรวจสอบได้ของประชาชน

 

รวมทั้งสวัสดิการประชาชน เพื่อช่วยสร้างความสะดวกให้กับประชาชน ภาคธุรกิจ ชาวต่างชาติ และเจ้าหน้าที่รัฐในการนำเทคโนโลยีไปใช้ประโยชน์กับการบริการต่าง ๆ ของภาครัฐ 

DGA กางแผนปี 65 ใส่เกียร์ห้าดัน \"รัฐบาลดิจิทัล\" เต็มสูบ

พร้อมทั้งหาทางผลักดันร่างแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทย พ.ศ.2566 – 2570 ตั้งเป้าหมายให้ดัชนีรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (E-Government Development Index : EGDI) ของประเทศไทยก้าวขึ้นมาอยู่ไม่ต่ำกว่าอันดับที่ 2 ของอาเซียน และประชาชนมีความพึงพอใจต่อการใช้บริการออนไลน์ภาครัฐไม่น้อยกว่า 80%

 

เช่นเดียวกับขยายขอบเขตการดำเนินงานให้ครอบคลุมภาคแรงงาน สิ่งแวดล้อม งานด้านยุติธรรม และการท่องเที่ยว ผ่านการสนับสนุนความร่วมมือระหว่างหน่วยงานรัฐทั้ง 20 กระทรวง

นายสุพจน์ กล่าวว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา DGA ได้ขับเคลื่อนโครงการสำคัญหลายโครงการที่ช่วยยกระกับคุณภาพการให้บริการกับประชาชน โดยมีผลการดำเนินงานที่ชัดเช่น คือ การจัดทำแอปลิเคชัน รวมทั้งแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น แอปฯ “ทางรัฐ” ถือเป็น Citizen Platform ที่รวบรวมงานของหน่วยงานรัฐ 29 หน่วยงาน รวม 45 บริการ แบ่งเป็น 

DGA กางแผนปี 65 ใส่เกียร์ห้าดัน \"รัฐบาลดิจิทัล\" เต็มสูบ

1.งานบริการด้านสวัสดิการของ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จำนวน 14 บริการ โดยบริการที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด เงินสงเคราะห์ และสิทธิประกันสังคม 

 

2.งานบริการสำหรับวัยเรียน แรงงาน และอื่น ๆ รวม 31 บริการปัจจุบันมีปริมาณการใช้งานแล้ว 1.17 ล้านครั้ง และมียอดดาวน์โหลด 169,332 ครั้ง โดยในระยะต่อไปจะเพิ่มเติมบริการอื่นที่ตอบสนองความต้องการของประชาชน เช่น เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เบี้ยผู้พิการ ใบสั่งจราจร (ข้อมูล, จ่าย) ใบขับขี่ (ข้อมูล, แจ้งเตือนใบขับขี่ ใกล้/หมด อายุ) และทะเบียนรถ (ข้อมูล, แจ้งเตือนภาษีทะเบียนรถใกล้/หมดอายุ)

เช่นเดียวกับการจัดทำระบบดิจิทัลเพื่อการพัฒนาระบบสุขภาพและสาธารณสุขของประเทศ ทั้ง แอปฯ Thailand Plus เป็นระบบเกี่ยวกับการติดตามตัวชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศ ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการลงทะเบียนแล้ว 268,656 คน หรือ DHCR ที่เชื่อมโยงสถานที่ในการรองรับและส่งต่อผู้ติดเชื้อโควิด 

 

รวมทั้ง แอปฯ หมอชนะ ที่มียอดรวมจำนวนผู้ใช้ประโยชน์แล้ว 6 ล้านคน และ Thailand Pass เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้าประเทศสำหรับชาวต่างชาติ และคัดกรองผู้ที่ต้องการเดินทางเข้ามายังประเทศไทยในช่วงที่มีการกำหนดมาตรการด้านสาธารณสุขเข้มงวดจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ล่าสุดมียอดผู้ลงทะเบียนสมสมอยู่ที่ 853,770 คน

DGA กางแผนปี 65 ใส่เกียร์ห้าดัน \"รัฐบาลดิจิทัล\" เต็มสูบ

นายสุพจน์ กล่าวว่า ในปี 2564 ที่ผ่านมา ยังร่วมมือกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ดำเนินโครงการจัดทำเอกสารสำคัญทางการศึกษาในรูปแบบดิจิทัล (Digital Transcript) ซึ่งระบบนี้จะรองรับให้สถาบันการศึกษาสามารถออกใบรับรองการศึกษาในรูปแบบดิจิทัลได้ เพื่อแก้ปัญหาการปลอมแปลงเอกสาร

 

โดยในเดือนธ.ค. 2564 มีสถาบันอุดมศึกษาที่พร้อมให้บริการ Digital Transcript จำนวน 39 แห่ง รองรับผู้ที่เรียนจบในปีการศึกษา 2564 จำนวน 1.6 แสนคน โดย Digital Transcript จะช่วยอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับการสมัครงานได้ 

DGA กางแผนปี 65 ใส่เกียร์ห้าดัน \"รัฐบาลดิจิทัล\" เต็มสูบ

นอกจากนี้ยังมีงานที่อยู่ระหว่างการดำเนินงานและจะเสร็จสิ้นตามมาอีกหลายโครงการ เช่นการพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อการแลกเปลี่ยนข้อมูลภาครัฐ, การพัฒนาระบบคลาวด์กลางภาครัฐ (GDCC), การพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับจัดเก็บข้อมูลสิทธิสวัสดิการประชาชนในพื้นที่, บูรณาการระบบข้อมูลทะเบียนเกษตรกรและจัดทำข้อมูลทางด้านการเกษตรแบบเปิดเชื่อมโยงกับศูนย์กลางข้อมูลเปิดภาครัฐ, พัฒนาระบบฐานข้อมูลการเกษตร เป็นต้น 

 

ผู้อำนวยการ DGA กล่าวว่า ในด้านการดำนวยความสะดวกภาคธุรกิจ DGA ยังร่วมกับสำนักงาน ก.พ.ร. เปิดให้บริการยื่นใบอนุญาตออนไลน์ แบบ One Stop Service ได้ 25 ประเภทธุรกิจ ครอบคลุม 78 ใบอนุญาต โดยมีผู้ประกอบกำรใช้แล้วในปี 2565 รวม 597 ราย หรือคิดเป็น 1,119 คำขออนุญาต

 

พร้อมทั้งร่วมกับ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในโครงการด้านการยืนยันและพิสูจน์ตัวตนทางดิจิทัล (Digital ID) และการลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-Signature) โดยเริ่มใช้ E- Signature ใน 3 บริการก่อน คือ E-Registration, E-Service และ E-Certificate