การพิจารณาคัดเลือกตัวอักษร คำหรือข้อความที่จะใช้เป็นตัวอักษรประจำหมวดให้คณะอนุกรรมการพิจารณาคัดเลือกตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้
- ไม่ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติชื่อบุคคล พ.ศ. ๒๕๐๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม เช่น ข้อความที่พ้องหรือมุ่งหมาย ให้คล้ายกับพระปรมาภิไธย พระนามของพระราชินี หรือราชทินนาม เป็นต้น
- ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย ศีลธรรม หรือวัฒนธรรมอันดีของประชาชน หรือเสียดสีสังคมหรือบุคคล หรือไม่เป็นคำ หรือข้อความที่สื่อความหมายส่อไปในทางลามกอนาจาร หรือหยาบคาย เช่น คำผวน คำแสลง เป็นต้น
- ไม่กระทบต่อความมั่นคงของรัฐและเกียรติภูมิของประเทศไทย หรือขัดต่อแนวนโยบายแห่งรัฐ เช่น ข้อความที่สนับสนุนให้ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นต้น
- ไม่ขัดความเชื่อทางศาสนา หรืออาจเป็นประเด็นข้อขัดแย้งทางศาสนา เช่น ข้อความล้อเลียนศาสดาหรือผู้นำทางศาสนา เป็นต้น
- ไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เช่น ข้อความที่ส่อไปในทางดูหมิ่น ดูถูก ประชาชนของประเทศอื่น เป็นต้น
- ไม่ละเมิดหรือทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น เช่น ข้อความดูหมิ่นหรือหมิ่นประมาทผู้อื่น เป็นต้น
- ไม่เป็นคำหรือข้อความที่ไม่มีความเหมาะสมที่จะนำมาใช้เป็นตัวอักษรประจำหมวด
- ตัวอักษร คำหรือข้อความเมื่อนำไปใช้กับหมายเลขทะเบียนเมื่อนับรวมกันในแนวนอนทั้งตัวอักษร สระและหมายเลขทะเบียน จะต้องไม่เกิน 7 ตัว
ในการพิจารณาคัดเลือกตัวอักษร คำหรือข้อความ ให้คณะอนุกรรมการมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
- กำหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือกตัวอักษร คำหรือข้อความที่จะใช้เป็นตัวอักษรประจำหมวดสำหรับแผ่นป้ายทะเบียนรถที่มีลักษณะพิเศษเพิ่มเติมจากหลักเกณฑ์ที่กำหนด
- ให้ความเห็นชอบตัวอักษร คำหรือข้อความที่ใช้เป็นตัวอักษรประจำหมวดสำหรับแผ่นป้ายทะเบียนรถที่มีลักษณะพิเศษ
- รายงานผลการพิจารณาคัดเลือกให้คณะกรรมการกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนเพื่อทราบในการพิจารณาคัดเลือกตามวรรคหนึ่ง ให้คณะอนุกรรมการทรงสิทธิไว้ในการให้ความเห็นชอบหรือไม่ให้ความเห็นชอบตัวอักษร คำหรือข้อความตามที่เห็นสมควร มติของคณะอนุกรรมการให้ถือเป็นที่สุด
- ตัวอักษร คำหรือข้อความที่คณะอนุกรรมการเห็นชอบให้ใช้เป็นตัวอักษรประจำหมวดสำหรับแผ่นป้ายทะเบียนรถที่มีลักษณะพิเศษ ให้สำนักมาตรฐานงานทะเบียนและภาษีรถนำเสนอนายทะเบียนทั่วราชอาณาจักรออกประกาศกำหนดตัวอักษรประจำหมวดสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกินเจ็ดคน เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบโดยทั่วกัน
ที่มา ราชกิจจานุเบกษา คลิกที่นี่