นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นำคณะผู้บริหารหอการค้าฯ เดินทางสำรวจโอกาสด้านการค้า – การท่องเที่ยว ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งถือเป็นประเทศผู้นำด้านเศรษฐกิจในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยในช่วงหลายสิบปีที่ผ่าน UAE สามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจและเทคโนโลยีได้อย่างก้าวกระโดด
สะท้อนจากเมืองดูไบที่กลายเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจที่สำคัญของโลก และติดอันดับเมืองมั่งคั่งที่สุดในตะวันออกกลาง ความสำเร็จดังกล่าวเกิดจากนโยบายภาครัฐในการจูงใจให้เกิดการลงทุนจากต่างประเทศ รวมถึงการส่งเสริมสนับสนุน SME และ Startup อย่างจริงจังในทุกมิติ
สำหรับด้านการท่องเที่ยว เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถือเป็น World Destination ที่มีความโดดเด่นและน่าจับตามอง ถึงแม้ในช่วงของสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้ภาคการท่องเที่ยวทั่วโลกซบเซาลง แต่ UAE ยังคงเดินหน้าภาคการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลพบว่า มีประชากรติดเชื้อรวมเพียง 8.67 แสนคนทั่วประเทศ มีผู้เสียชีวิตสะสม 2.3 พันคน
โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1.3 พันคน เสียชีวิต 1 คน (ข้อมูล 14 ก.พ. 65) ถือว่า โดยในวันนี้จะเห็นได้ว่าภาพรวมการท่องเที่ยวของ UAE เต็มไปด้วยความคึกคัก โดดเด่น ทั้งจากนักท่องเที่ยวในประเทศ และนักท่องเที่ยวต่างชาติ อันเนื่องมาจากความเชื่อมั่นในความปลอดภัย และการที่สามารถปรับตัวให้อยู่ร่วมกับโควิด19
สำหรับแผนงานของประเทศไทย เพื่อสร้างบรรยากาศหรือกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ดี โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวให้ฟื้นกลับมาเร็วขึ้นนั้น ภาคเอกชนเสนอให้รัฐบาลพิจารณาผ่อนคลายมาตรการเข้า-ออก ประเทศ โดยยกเลิกการ RT-PCR ในวันที่ 5 และการรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตทุกวัน เพื่อไม่ให้กังวลถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อมากเกินไป ซึ่งหลายประเทศได้ดำเนินการในลักษณะดังกล่าวแล้ว แสดงให้เห็นว่าเราสามารถอยู่ร่วมกับการระบาดได้แล้ว
ทั้งนี้ หอการค้าไทยยังได้นำ คณะเดินทางเยี่ยมชมงานแสดงสินค้า Gulfood 2022 (งานแสดงสินค้าอาหารที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง บนพื้นที่ประมาณ 93,000 ตารางเมตร ซึ่งใหญ่ใกล้เคียงกับ งาน THAIFEX ของประเทศไทย ที่มีเนื้อที่ 107,000 ตารางเมตร) โดยงานนี้จัดขึ้นหว่างวันที่ 13 - 17 กุมภาพันธ์ 2565 ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยหอการค้าไทยและกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมมือกันนำเอาผู้ประกอบการส่งออกไทยเข้าร่วมงานแสดงสินค้าเพื่อให้เกิดการจับคู่ทางการค้า และขยายโอกาสการค้าระหว่างไทยและกลุ่มเป้าหมาย ภายในงานมีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงาน ทั้งสิ้น 62 ราย
แบ่งเป็นโซน World Food 38 ราย โซน Beverage 13 ราย และโซน Pulses, Grain & Rice 5 ราย และแบบ เจรจาการค้าออนไลน์ รูปแบบ Mirror-Mirror จำนวน 6 ราย ซึ่งที่ผ่านมากรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้เข้าร่วมงานต่อเนื่องเป็นปีที่ 20 โดยตั้งแต่เริ่มเปิดงานมาจนถึงปัจจุบันพบว่าพื้นที่จัดแสดงของประเทศไทยได้รับความนิยมจากผู้ร่วมงานที่มาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก โดยผู้ชมงานมีความสนใจในสินค้าอาหารแห้งและผลไม้แปรรูป ที่มีโอกาสจะมาที่ตะวันออกกลางมาก โดยประเทศไทยมีช่องทางเจาะตลาด เพื่อที่ภูมิภาคนี้จะได้ไม่พึ่งพาสินค้าจากประเทศจีนอย่างเดียว โดยสามารถกระจายความเสี่ยงในการนำเข้าสินค้าจากประเทศไทย
นอกจากนั้น หอการค้าไทย ยังเล็งเห็นโอกาสที่จะนำสินค้าที่มีศักยภาพไปขยายโอกาสต่อ ที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย ซึ่งมีกำหนดการจะเดินทางไป ในช่วงวันที่ 26 กุมภาพันธ์-2 มีนาคม นี้ และยังมีแผนต่อเนื่องที่จะจัดคณะเดินทางไปเจรจาการค้าต่อกับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้เกิด Business Matching และ ร่วมงานแสดงสินค้าต่อไปอีกด้วย