นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หอการค้าไทยได้นำคณะเข้าร่วมหารือกับ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายดามพ์ บุญธรรม อธิบดีกรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา เพื่อเตรียมนำภาคเอกชนเดินทางเยือนซาอุดิอาระเบีย
ซึ่งเป็นการดำเนินความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างกัน หลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางเยือนก่อนหน้านี้ โดยคณะที่ร่วมหารือเตรียมการในครั้งนี้ ประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูงของภาคเอกชนในสาขาธุรกิจที่มีศักยภาพ อาทิ สินค้าอุปโภคบริโภค เกษตรและอาหาร พลังงาน อสังหาริมทรัพย์ ยานยนต์ อัญมณีและเครื่องประดับ ท่องเที่ยวและบริการ เป็นต้น
“ในปีที่ผ่านมา ไทยส่งออกไปประเทศซาอุฯ ประมาณ 1,500 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 45,000 ล้านบาท) คิดเป็นเพียง 0.6% ของการส่งออกทั้งหมดจากประเทศไทย แต่หลังจากการเดินทางเยือนซาอุฯ ของนายกรัฐมนตรี ถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญของประเทศไทย เราจึงมุ่งมั่นที่จะทำให้สัดส่วนการส่งออกไปยังซาอุฯ กลับไปที่ประมาณ 2.2% ของการส่งออก ซึ่งเคยเป็นสัดส่วนในปี 2532 นั่นหมายถึงปริมาณการค้าจะเพิ่มขึ้นไปถึงประมาณ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 150,000 ล้านบาท) โดยไทยจะสามารถเจาะตลาด ได้ทั้งสินค้ารถยนต์และส่วนประกอบ สินค้าอาหารและอาหารแปรรูป เครื่องจักรกล และอุปกรณ์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นสินค้าที่มีศักยภาพ” นายสนั่น กล่าว
ที่ประชุมได้มีการหารือเกี่ยวกับการจัดคณะนักธุรกิจเดินทางเยือนซาอุดิอาระเบีย ซึ่งสอดคล้องกับสาขาความร่วมมือทั้ง 9 ด้าน ที่นายกรัฐมนตรีได้มีการหารือขณะเยือนซาอุดิอาระเบียเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้แก่ 1) การท่องเที่ยว 2) พลังงาน 3) แรงงาน 4) ความมั่นคงทางอาหาร 5) สุขภาพ 6) ความมั่นคง 7) การศึกษาและศาสนา 8) การค้าและการลงทุน และ 9) กีฬาและวัฒนธรรม ทั้งนี้ ได้กำหนดการเดินทางในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565 โดยเบื้องต้นจะไปเยือนเมือง Riyadh และ Neom
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์ซาอุดีอาระเบีย ค.ศ.2030 (Saudi Vision 2030) โดยจะมีหารือกับทางภาครัฐและภาคเอกชนของทางซาอุดิอาระเบียในการสร้างความร่วมมือทางการพัฒนาความสัมพันธ์ร่วมกันโดยเฉพาะการค้า นอกจากนั้น ยังได้รับทราบว่า หอการค้าซาอุดิอาระเบียมีความประสงค์จัดตั้ง สภาธุรกิจไทย-ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งจะมีการหารือกับภาคเอกชนไทยในรายละเอียดการจัดตั้งต่อไป
ทั้งนี้ ซาอุดิอาระเบียถือเป็นศูนย์กลางในตะวันออกกลาง และมีแผนที่จะขยายและพัฒนาประเทศโดยไม่พึ่งพาน้ำมันเพียงอย่างเดียว ส่วนนี้จะเป็นโอกาสให้กับประเทศไทยในการส่งออกสินค้า โดยสินค้าที่คาดว่ามีศักยภาพในการส่งออกไปซาอุดิอาระเบียเพิ่มเติม อาทิ ไก่แปรรูป รถยนต์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ไม้แปรรูป อัญมณี วัสดุก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม ยังมีปัญหาและอุปสรรคการค้ากับซาอุดิอาระเบียอยู่บ้าง โดยเฉพาะปัญหาการออกใบรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตร และการรับรองมาตรฐานอาหารฮาลาล
สำหรับโอกาสความร่วมมือที่ต้องการให้เกิดขึ้น ระหว่างการจัดคณะภาคเอกชนเดินทางไปเยือนซาอุดิอาระเบีย เพิ่มเติมจากการค้าระหว่างกัน ได้แก่ ความร่วมมือด้านการพัฒนาบุคลากรในด้านบริการการท่องเที่ยว การศึกษา การแพทย์ รวมทั้ง การส่งเสริมและแลกเปลี่ยนความร่วมมือด้านกีฬา (Sport Diplomacy) และการร่วมลงทุนด้านพลังงานทางเลือก (Renewable Energy)