วันนี้ (9 มี.ค.65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติให้สำนักงานกกต. แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีอาญากับ นายสิระ เจนจาคะ อดีตส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กรณีรู้อยู่แล้วว่าไม่มีคุณสมบัติสมัครรับเลือกตั้งส.ส.แต่ยังใช้สิทธิลงสมัคร ตามมาตรา 151 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. 2560
หลังจากได้พิจารณาสำนวนการสอบสวนกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ยื่นคำร้องว่านายสิระ ขาดคุณสมบัติในการการลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส. จากเหตุเคยต้องคำพิพากษาในคดีฉ้อโกง และเห็นว่า นายสิระ ขาดคุณสมบัติจริง ขณะเดียวกันศาลรัฐธรรมนูญก็มีคำวินิจฉัยให้สมาชิกภาพส.ส.ของนายสิระ สิ้นสุดลง จากเหตุดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ ตามมาตรา 151 ได้กำหนดโทษ ของผู้ที่รู้ว่าตนมีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครไว้ว่าต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 2 หมื่นบาท ถึง 2 แสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี
อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยยื่นร้องขอให้ เอาผิดกับ นายอุตตมะ สาวนายน กรณีขณะเป็นหัวพรรคพลังประชารัฐ ลงนามรับรองส่งนายสิระ ลงสมัคร ยังอยู่ในชั้นการดำเนินการของสำนักงาน กกต.
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2564 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่าสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของนายสิระ เจนจาคะ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (10)
โดยศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 7 ต่อ 2 ว่า สมาชิกภาพของ ส.ส. ของนายสิระสิ้น สุดลงตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากข้อเท็จจริงฟังได้ว่าเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดของศาลแขวงปทุมวัน ในคดีหมายเลขดำที่ 812/2538 คดีหมายเลขแดงที่ 2218/2538 กระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา จึงเป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (10) อันเป็นเหตุให้สมาชิกภาพการเป็น ส.ส. สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6)
ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ นายสิระ พ้นจากสมาชิกภาพส.ส. นับแต่วันเลือกตั้ง 24 มี.ค.2562 ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นในการนับสมาชิกภาพความเป็น ส.ส. และให้จัดการเลือกตั้งใหม่