นายสุนทราภรณ์ สิงห์รีวงศ์ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคเหนือ เผยถึงกรณีที่ภาครัฐยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการดำเนินการเรื่องการนำเข้าเนื้อสุกรจากต่างประเทศ จากแนวโน้มราคาสุกรยังคงเป็นราคาที่ผู้บริโภครับได้ สถานการณ์ราคาในขณะนี้เป็นไปตามกลไกตลาด มีอุปสงค์-อุปทานเป็นตัวกำหนด และราคาขายมีแนวโน้มต่ำลง ขณะเดียวกัน สมาคมผู้เลี้ยงทั่วประเทศได้ให้ความร่วมมือในการรักษาระดับราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มโดยตลอด จึงยังไม่มีเหตุผลจำเป็นที่จะต้องนำเข้า เกษตรกรผู้เลี้ยงยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ภาครัฐ ยังคงยืนหยัดดูแลเกษตรกรไม่ให้เนื้อหมูนำเข้ามาทำลายเสถียรภาพของอุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรของไทย
ทั้งนี้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู ขอขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่เดินหน้านโยบายดูแลพี่น้องเกษตรกรคนเลี้ยงหมู โดยไม่เปิดนำเข้าเนื้อหมู เข้ามาซ้ำเติมทุกข์ของเกษตรกร
วันนี้แม้ราคาหมูจะปรับตัวลดลง สวนทางกับภาระต้นทุนการเลี้ยงที่สูงขึ้นที่ภาคผู้เลี้ยงต้องแบกรับ ตามสถานการณ์โลกที่มีผลต่อต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์สูงขึ้น ตามกลไกตลาดโลกจากวิกฤติยูเครน-รัสเซียก็ตาม แต่เกษตรกรก็ยังมีกำลังใจร่วมกันผลิตหมูปลอดภัยต่อไป ขอเพียงภาครัฐยึนเคียงข้าง ปล่อยให้กลไกตลาดทำงานอย่างเสรี ดังเช่นที่ผ่านมา ซึ่งช่วยให้ราคาหมูเกิดเสถียรภาพ และเป็นแรงจูงใจอย่างดี ทำให้พี่น้องเกษตรกรรายย่อย-รายเล็ก หันกลับมาเลี้ยงหมู ทำให้มีปริมาณหมูในระบบมากขึ้น ตามเป้าหมายที่ภาครัฐกำลังเร่งดำเนินการผลักดัน
กรมปศุสัตว์เผยผลสำรวจจำนวนผู้เลี้ยงสุกรล่าสุดพบว่า มีเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรเพิ่มขึ้น โดยฟาร์มไซส์ M มีผู้เลี้ยงเพิ่ม 963 ราย เพิ่มขึ้น 24.97% และไซส์ L เพิ่มขึ้น 651 ราย จากเดิมที่มี 241 ราย อย่างไรก็ตาม เกษตรกรผู้เลี้ยงยังคงต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐ ในการดูแลปัญหาเรื่องต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ปรับตัวขึ้นทุกชนิด เพื่อให้เกษตรกรสามารถผลิตสุกรได้ต่อไป