รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 15 มี.ค.นี้ จะมีการนำวาระพิจารณาให้นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ต่ออายุราชการเป็นผู้ว่ารฟม.อีก 2 ปีเท่านั้น เนื่องจากนายภคพงศ์ อายุ 58 ปี ทำให้จะอยู่ในวาระผู้ว่าฯรฟม.จนถึงอายุครบ60 ปี
ที่ผ่านมาคณะกรรมการ(บอร์ด) รฟม.ได้มีการพิจารณาวาระลับ เรื่อง การประเมินการปฏิบัติหน้าที่ของ นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ รฟม. ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งผู้ว่าฯ รฟม. ผ่านเกณฑ์การประเมินในทุกด้าน อีกทั้งจะครบวาระสัญญาจ้าง 4 ปี ในภายเดือน เม.ย. 2565
สำหรับการต่อวาระในครั้งนี้คาดว่าเป็นการสานต่อโครงการขนาดใหญ่ของกระทรวงคมนาคมอย่างการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) และโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ
หลังจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เตรียมปัดฝุ่นโครงการรถไฟฟ้า สายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี วงเงินลงทุน 1.427 แสนล้านบาทมาดำเนินการต่อ หลังจากประสบผลสำเร็จในการประกวดราคาก่อสร้างรถไฟฟ้า สายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) วงเงิน 82,000 ล้านบาทไปแล้วนั้น
แหล่งข่าวในวงการรับเหมา กล่าวว่า ผลการประมูลรถไฟฟ้า สายสีม่วงใต้ก่อนหน้า ไม่ได้ผิดไปจากที่คาดการณ์กันไว้ก่อนหน้า เพราะแม้ รฟม.จะอ้างว่า เป็นการประกวดราคานานาชาติ(International Competition Bidding : ICB) แต่เนื้อแท้ของการประมูลกลับมีการกำหนดเงื่อนไขบริษัทรับเหมาที่จะเข้าประมูล ต้องมีผลงานก่อสร้างอุโมงค์ใต้ดินที่เป็น Local content กับทางการไทย ทำให้มีเพียงผู้รับเหมาในประเทศเพียง 3-4 รายเท่านั้นที่ผ่านเกณฑ์เข้าประมูลเปิดทางให้ทุนการเมืองจัดฮั้วประมูลได้ในที่สุด ผลประกวดราคาที่ได้จึงต่ำกว่าราคากลางเพียง 157.94 ล้านบาท หรือ 0.19% เท่านั้น
ส่วนของการประกวดราคาก่อสร้างรถไฟฟ้า สายสีส้มส่วนตะวันตก (บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม)ที่ รฟม.จะปัดฝุ่นมาดำเนินการต่อนั้น แหล่งข่าวเปิดเผยว่า มีความแตกต่างไปจากการประมูลรถไฟฟ้า สายสีม่วงใต้ เพราะรฟม.ไม่ได้แยกเนื้องานก่อสร้างออกมาประมูล แต่จะดำเนินการประมูลแบบโปรเจ็กต์เป็นสัญญาเดียว โดยเอกชนที่ได้งานรับเหมาก่อสร้างส่วนตะวันตก จะได้งานจัดหาและติดตั้งระบบรถไฟฟ้าและสัมปทานเดินและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าทั้งโครงการ (O&M)ระยะเวลา 30 ปีไปด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ รฟม.มีความพยายามจะนำเกณฑ์ประมูลคัดเลือกใหม่โดยจะพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิคและราคาประกอบหรือ Price Performance มาใช้ แต่ถูกบริษัทรับเหมาที่เข้าร่วมประมูลฟ้องร้องทำให้ต้องยกเลิกการประมูลไปในที่สุด ล่าสุดมีรายงานว่า รฟม.เตรียมปัดฝุ่นโครงการนี้กลับมาดำเนินการใหม่ในช่วงเดือน มี.ค.-ส.ค.65 นี้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างเงื่อนไขประมูลใหม่ที่จะมีขึ้น โดยรฟม.ยังไม่ได้กำหนดว่าจะใช้เกณฑ์ใดพิจารณาชี้ขาด แต่มีการคาดการณ์ว่า คงจะไม่ต่างจากรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ที่อ้างว่าเป็นเกณฑ์ประมูลปกติหรือ Price Only ชี้ขาดกันที่ข้อเสนอราคา และเป็นการประกวดราคานานาชาติ (ICB) แต่จะเพิ่มดีกรีความเข้มข้นในการพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิด โดยบริษัทรับเหมาที่จะเข้าประมูล ต้องมีผลงานก่อสร้างอุโมงค์ใต้ดิน (Local Content) ที่เปิดให้บริการแล้ว และต้องผ่านเกณฑ์ด้านเทคนิคเกิน 85% จึงจะมีสิทธิ์เข้าแข่งขันด้านราคา
ทั้งนี้ การกำหนดเงื่อนไขดังกล่าวจึงทำให้ในเมืองไทยมี Operator ที่สามารถเข้ายื่นข้อเสนอได้เพียง 3 รายเท่านั้นคือ BEM ,BTS และบริษัทรถไฟฟ้าร.ฟ.ท.จำกัด บริษัทลูกของการรถไฟแห่งประเทศไทยที่บริหารโครงการแอร์พอร์ตลิงค์ก่อนหน้า รวมทั้งเดินรถไฟฟ้าสายสีแดงในปัจจุบัน โดยได้มีการเดินเกมเจรจาที่จะให้บริษัทรถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จับมือกับ บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด(มหาชน) หรือ ITD และบริษัทซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่งฯ(ST) แยกตัวออกมายื่นประมูลโดยตรงซึ่งจะทำให้กลุ่ม BSR ที่เดิมที่มี ST ร่วมเป็นพันธมิตรอยู่ด้วยต้องแสวงหาพันธมิตรใหม่เข้าร่วม ซึ่งไม่ว่าจะดึงบริษัทรับเหมาจากต่างประเทศรายใดเข้ามา ก็ยากจะผ่านเกณฑ์ด้านเทคนิค ที่กำหนดให้ต้องมีผลงานก่อสร้างอุโมงค์ใต้ดินกับรัฐบาลไทย จึงทำให้สุดท้ายแล้ว โครงการนี้จะเหลือเพียงกลุ่ม CK-BEM และ ITD เข้าร่วมประมูลเท่านั้น ซึ่งหากพิจารณาเนื้องานโครงการที่ต้องรวมการจัดหาระบบรถไฟฟ้าและบริหารโครงการด้วยแล้ว กลุ่ม CK-BEM จึงน่าจะชนะประมูลตั้งแต่แรก