สงครามนิวเคลียร์เป็นสิ่งที่ประชาชนทุกคนบนโลกล้วนแต่ไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะสิ่งที่จะกิดขึ้นตามมาคือความสูญเสียที่มหาศาล
นายสันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง อาจารย์พิเศษคณะบริหารการพัฒนาสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว (Sunt Srianthumrong) โดยมีข้อความว่า
สงครามนิวเคลียร์: Nuclear Winter 1 ใน 3 หายนะที่จะเกิดขึ้นใน WW3 ร้ายแรงกว่าที่ทุกคนคิด แต่มีโอกาสรอด (น้อย) ถ้าเตรียมตัว
สำหรับพ่อบ้านแม่บ้าน และครอบครัวเอาตัวรอด ไม่ใช่ Government Policy
การรบใน WW3 ในทาง Strategic Plan ระเบิด Nuclear คงไม่มาลงที่เรา เราอาจจะรอดจากหายนะที่ 1 คือ Nuclear Blast แน่ๆ
แต่หายนะที่ 2 คือ Fall Out จากฝุ่นนิวเคลียร์ที่ฟุ้งขึ้นไปถึงสตราโตสเฟียร์แล้วตกลงมา เราอาจจะโดนบ้างแน่ๆ
ส่วนหายนะที่ 3 คือ Nuclear Winter หรือ ฤดูหนาวนิวเคลียร์ ประเทศไทยไม่รอด โดนกันทั้งโลก
ฉากทัศน์ของสงคราม:
หัวรบที่มีในปัจจุบัน:
ประมาณ 26,000 หัวรบ และมี 11,000 พร้อมยิง
ขนาดของระเบิด Nuclear:
ลูกที่ทิ้งที่ Hiroshima มีขนาด 15 ktons
แต่ที่น่าจะใช้ใน WW3 คือ 100 ktons ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานที่ติดตั้งพร้อมใช้งานอยู่ในเรือดำน้ำของประเทศมหาอำนาจ
ระเบิดทั้งหมดที่จะใช้ในการรบเชิงยุทธวิธี:
4,400 ลูก รวม 440-Mt
"Russia targets 1000 weapons on the US and 200 warheads each on
France, Germany, India, Japan, Pakistan, and the UK. We assume
the US targets 1100 weapons each on China and Russia"
การเสียชีวิต:
ตายทันที 770 ล้านคน
ตายจาก Fall Out เป็นมะเร็งตายภายหลังอีกจำนวนมากมหาศาล
ตายจากฤดูหนาวนิวเคลียร์ เป็นส่วนใหญ่
ผลกระทบกับสภาวะแวดล้อม:
Nuclear Winter:
ฝุ่นที่ปกคลุม Stratosphere จะทำให้แสงแดดที่ตกถึงพื้นโลกอาจลดน้อยลงถึง 70% ในซีกโลกเหนือ อุณหภูมิโลกจะลดลงต่ำลงกว่าปกติ -9 องศาเซลเซียส ซึ่งจะหนาวเย็นกว่ายุคน้ำแข็งครั้งล่าสุดถึง 4 องศา เป็นเวลายาวนานถึง 10 ปี
การเพาะปลูก:
พื้นที่เพาะปลูกสำคัญเช่น ยูเครน จะไม่เหลือฤดูกาลที่เพาะปลูกได้เลย ส่วนรัฐ IOWA จะเหลือแค่ 20%
สิ่งที่น่าจะเกิดกับประเทศไทย:
หลักการเอาตัวรอด 10 ข้อ:
ถ้าใครก็ตามที่รอดมาได้ ซึ่งผมคิดว่าทั้งโลกคงเหลือไม่ถึง 100 ล้านคน บางทีอาจจะแค่หลักแสน พวกเขาก็จะมีหน้าที่สร้างโลกขึ้นมาใหม่ ธรรมชาติคงใช้เวลาหลายร้อยปีกว่าจะเริ่มฟื้นตัว
และนับพันปีกว่าพืชและสัตว์จะเริ่มกลับมา ส่วนมนุษย์อย่างพวกเราน่าจะใช้เวลาหลายพันปีกว่าจะสร้างอารยธรรมกลับมาได้เหมือนเดิม
จากปลายยุคค้ำแข็ง มาถึงการสร้างกรุงโรมก็ 7,000 ปี ผมคิดว่าประมาณนั้นแหละ