ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บมจ.แสนสิริ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แถวหน้าของไทย ลงทุน 1,900 ล้านบาท เปิดโครงการ “เดอะ เบส ไฮท์- เชียงใหม่” คอนโดมิเนียมตึกสูง 31 ชั้น แห่งแรกของเชียงใหม่จากแสนสิริ ในราคาเริ่ม 2.39 ลบ. เติมเต็มตลาดคอนโดฯ ในย่านถนนแก้วนวรัฐ-ซูเปอร์ไฮเวย์เลี่ยงเมือง ที่เป็นโลว์ไรส์ ภายใต้แนวคิด Holiday Home ที่คุ้มค่าทั้งพักเองหรือลงทุนเพื่อปล่อยเช่า
นายองอาจ สุวรรณกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาโครง การคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การรุกตลาดหัวเมืองใหญ่ กับคอนโด Holiday Home เป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักของแผนธุรกิจคอนโดแสนสิริ ปี 2565 โดย “เดอะ เบส ไฮท์-เชียงใหม่” ยังเป็นโครงการแรก ภายใต้แบรนด์ ‘เดอะ เบส’ ซึ่งเป็นหนึ่งในแบรนด์ไฮไลท์รุกตลาดคอนโดของแสนสิริในปีนี้
ทั้งยังมาพร้อมกับแบรนด์ดิ้งใหม่ “BASE ON YOU” เพื่อนำเสนอการออกแบบ ที่สะท้อนตัวตนผู้อยู่อาศัย รองรับทุกการใช้งาน ครอบ คลุมทุกฟังก์ชั่น ทุกไลฟ์สไตล์ ที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย และเป็นคอนโด มิเนียมตึกสูงตึกแรกจากแสนสิริในเมืองเชียงใหม่ วิวเคลียร์ เห็นดอยสุเทพและดอยสะเก็ดชัด
ตั้งอยู่บนถนนแก้วนวรัฐ รายล้อมด้วยห้างสรรพสินค้าและร้านค้าปลีก สถานศึกษา โรงพยาบาล ทั้งง่ายต่อการ เดินทางข้ามจังหวัดที่เข้า-ออกเมืองสะดวก ห้องแต่งเฟอร์นิเจอร์ครบส่วนกลางมีพื้นที่กว่า 2,000 ตารางเมตร
ในราคาเริ่มต้นที่ 2.39 ล้านบาท เฉลี่ย 84,000 บาท/ตร.ม. และอัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า (Rental Yield) เฉลี่ย 6% ด้านอัตราส่วนต่างกำไรจากการขายต่อ (Capital Gain) เฉลี่ยสูงถึง 10%
“บนทำเลที่มีศักยภาพสูงนี้ มีโครงการที่เปิดขายอยู่เพียง 3 โครงการเท่านั้น ทำให้มี Supply ในตลาดค่อนข้างน้อย ประมาณไม่ถึง 1,000 ยูนิต และ 2 ใน 3 เป็นคอนโดตึกไม่สูง และเปิดมาได้ระยะหนึ่งแล้ว ทำให้ลูกค้ามีตัวเลือกที่ค่อนข้างน้อย การพัฒนาโครงการ เดอะ เบส ไฮท์-เชียงใหม่ เป็นคอนโดสูงที่จะเข้ามาเติมเต็มตลาด”
นายองอาจกล่าวอีกว่า เชื่อมั่นว่าจะได้รับการยอมรับจากลูกค้าดีเยี่ยม เช่นเดียวกับความสำเร็จสามารถปิดการขายในเชียงใหม่มา 10 โครงการ มูลค่ารวม 10,380 ล้านบาท และช่วยดันยอดขายสู่เป้าคอนโดรวม 14,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ เป็นการเปิดขายโครง การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใหม่ ในภาวะที่รัฐกำลังบริหารสถานการณ์โควิด-19 สู่โรคประจำถิ่น แต่บรรยากาศเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว มาเกิดเหตุ วิกฤติการสู้รบยูเครน-รัสเซีย เป็นวิกฤติซํ้าที่ส่งผลกระทบทั่วโลกโดยยังไม่รู้อนาคต
หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,768 วันที่ 24-26 มีนาคม พ.ศ. 2565