แหล่งข่าววงการค้าพืชไร่ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงความเคลื่อนไหว สถานการณ์ ตลาดชิคาโก หรือ Chicago Mercantile Exchang (CME) และ Chicago Board of Trade (CBOT) ณ วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม 2565 สัญญาดีดตัวขึ้นตามราคาพลังงานที่พลิกขยับขึ้นสูงหลังจาก“กบฏฮูตี” โจมตีโรงงานผลิตน้ำมันของบริษัทซาอุดี อารามโกในเมืองเจดดาห์ของซาอุดิอารเบีย ที่อาจจะทำให้การส่งออกน้ำมันดิบลดลง
อีกทั้งนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐเตือนว่าวิกฤติการณ์ “รัสเซีย-ยูเครน" ทำให้สินค้าโภค ภัณฑ์มีราคาพุ่งขึ้นและกระทบเศรษฐกิจโลกไปจนถึงปีหน้า, สัญญาธัญพืชตลาด CBOT พลิกขยับขึ้นปิดบวกได้ทุกตัว หลังจากปิดในแดนลบทุกตัวไปเมื่อวานนี้, วันที่ 31 มี.ค.จะมีรายงานคาดการณ์พื้นที่ปลูกของปี 2022และรายงานสต๊อกคงเหลือของสินค้า ณ วันที่ 1 มี.ค.ของ USDA เผยแพร่ออกมา
"ข้าวโพด" : สัญญาพลิกขยับขึ้นปิดบวกตามราคาพลังงาน หลังจากบริษัทซาอุดิ อารามโก ถูกกบฤฮูตีโจมดีจนเกิดไฟไหม้อย่างหนัก หนุนส่งราคาข้าวโพดซึ่งเป็นต้นธารของเอทานอลให้กลับขึ้นปิดบวก อีกทั้งความไม่แน่นอนของการส่งออกข้าวโพด ข้าวสาลี น้ำมันดอกทานตะวันจากยูเครน หลังจาก NATO มีมติส่งทหารเข้าไปเพิ่มอีก 40,000 นายใน 4 ประเทศที่ล้อมรอบๆยูเครน และยูเครนลดพื้นที่ปลูกลงเกินครึ่งจากปีที่แล้ว หลังเสียพื้นที่ให้ทหารรัสเซียยึดครองไปในช่วงนี้
"ถั่วเหลือง" : สัญญาพลิกขยับขึ้นปิดบวกและยังอยู่เหนือระดับ $17/BU ด้วยแรงซื้อคันทางเทคนิคหลังจากราคาพลังงานดีดตัวขึ้นจากการที่“กบฏฮูตี ตีโจมตีโรงงานน้ำมันของบริษัทซาอุดิ อารามโก, วันนี้ภาคเอกชนขายถั่วเหลืองให้จีนได้ 4.9 ล้านบูชเชลส่งมอบในปี 2021/22 นี้
"ข้าวสาลี" : สัญญาขยับขึ้นปิดบวก และอยู่เหนือ $ 11/BU อีกครั้งจากความยืดเยื้อของ "สงครามรัสเชีย-ยูเครน" และ "ยูเครน" ลดพื้นที่ปลูกธัญพืชในปี 2022 ลงมากกว่าครึ่งด้วยเสียพื้นที่ให้ทหารรัสเซียยึดครองไป, ยุโรปซึ่งมีปัญหาขาดแคลนข้าวสาลีหลังจากรัสเซียประกาศหยุดส่งออกยังมีภาระต้องเลี้ยงดูชาวยูเครนผู้หลีกหนีจากภัยสงครามที่มากกว่า 3 ล้านคน ซ้ำเติมให้หลายๆประเทศของ สหภาพยุโรป (EU) ขาดแคลนข้าวสาลีเพื่อการบริโภค จนมีการออกมาเดินขบวนประท้วงให้ชาติของตนเองยุติการสนับสนุนยูเครนอยู่ในขณะนี้
เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเท่าเมื่อานนี้ ธนาคารขนาดใหญ่ของสหรัฐคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปในเดือน พ.ค.มากถึง 0.50% เพื่อเร่งสะกัดเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปี หลังจากขยับขึ้น 0.25% เป็นครั้งแรกในการประชุมไปเมื่อวานที่ 15-16 มี.ค.นี้ จากที่ยืนอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดมาตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2018 , วันนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทะลุ 2.50% แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34 861.24 จด เพิ่มขึ้น + 153.30 จุด หรือ +0.44% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,543.06 จุด เพิ่มขึ้น+ 22.90 จุด หรือ +0.51% ขณะที่ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 14, 169.30 จุด ลดลง -22.54 จุด หรือ - 0.16% ดัชนีดาวโจนสุขยับขึ้นปิดบวก ด้วยแรงหนุนของหุ้นในกลุ่มดัชนี S&P500 ซึ่งเป็นกลุ่มของธนาคารและบริษัทการเงินที่ได้รับอานิสงค์จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี ขณะที่ดัชนี NASDAQ ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีและกลุ่มสินค้ามเฟือยที่ปิดในแดนลบ