นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่เริ่มพบการระบาดโรคใบด่างมันสำปะหลังกรมวิชาการเกษตรซึ่งเป็นหน่วยงานดำเนินงานวิจัยด้านพืชได้ออกมาตรการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง โดยมาตรการด้านงานวิจัย ได้มีการพัฒนาปรับปรุงพันธุ์มันสำปะหลังต้านทานต่อโรคใบด่างมันสำปะหลัง การประเมินพันธุ์ทนทานต่อโรคใบด่างมันสำปะหลัง การผลักดันให้เกษตรกรใช้พันธุ์ทนทานและท่อนพันธุ์สะอาดเพื่อควบคุมการระบาดของโรคใบด่างมันสำปะหลัง
ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีพันธุ์มันสำปะหลังที่ต้านทานต่อโรคใบด่างมันสำปะหลัง โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนกระบวนการปรับปรุงพันธุ์ระยะเริ่มต้น ซึ่งตลอดทั้งกระบวนการปรับปรุงพันธุ์ต้องใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 6-7 ปี ดังนั้นแนวทางที่จะสามารถช่วยแก้ปัญหาหรือบรรเทาผลกระทบจากการระบาดของโรคใบด่างมันสำปะหลังต่อระบบการผลิตมันสำปะหลังและอุตสาหกรรมต่อเนื่องได้ในปัจจุบันจะต้องประกอบด้วยวิธีการต่าง ๆ อย่างผสมผสาน และดำเนินการอย่างเป็นระบบ
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า จากการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง สภาเกษตรกรแห่งชาติได้เสนอขอให้กรมวิชาการเกษตรดำเนินงานวิจัยเร่งด่วนเพื่อยืนยันข้อมูลทางวิชาการเรื่องศักยภาพการใช้แคลเซียมคาร์บอเนตสร้างความแข็งแรงให้แก่มันสำปะหลังซึ่งได้รับผลกระทบหรือได้รับความเสียหายจากการเกิดโรคใบด่างมันสำปะหลัง
โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้กรมวิชาการเกษตรจัดทำแผนโครงการวิจัยพัฒนาเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาโรคใบด่างมันสำปะหลัง ระยะเวลาดำเนินการวิจัย 2 ปี ซึ่งกรมวิชาการเกษตรได้จัดทำแผนการดำเนินงานโครงการวิจัยพัฒนาเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคใบด่างมันสำปะหลัง ใน 23 จังหวัด โดยมุ่งเน้นการวิจัยดังนี้
1 การทดสอบและขยายผลศักยภาพการใช้แคลเซียมคาร์บอเนตในพื้นที่การระบาดของโรคใบด่างมันสำปะหลัง รวมพื้นที่ทดสอบ 150 ไร่
2. การวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีการสร้างความแข็งแรงให้มันสำปะหลังในพื้นที่ระบาดโรคใบด่างมันสำปะหลัง เป็นการวิจัยการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมันสำปะหลังโดยการใช้แคลเซียมคาร์บอเนต กรดซาลิไซลิค สารปรับปรุงดิน และปุ๋ยชีวภาพ PGPR ในสภาพพื้นที่การระบาดของโรคใบด่างมันสำปะหลัง เพื่อลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อเกษตรกรและอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทยเมื่อเกิดการระบาดของโรคใบด่างมันสำปะหลัง
3. การวิจัยพัฒนาสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโรคใบด่างมันสำปะหลัง ประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ การวิจัยเร่งรัดการผลิตท่อนพันธุ์มันสำปะหลังสะอาด เพื่อเป็น Clean Buffer Stock ในระบบการผลิตมันสำปะหลังของประเทศ การพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์และโดรนเกษตรสำหรับพ่นสารเคมีกำจัดแมลงหวี่ขาวยาสูบอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถลดปริมาณการใช้สารเคมีได้ และการประเมินความทนทานของพันธุ์มันสำปะหลังและสายพันธุ์ก้าวหน้า สำหรับแนะนำส่งเสริมเป็นทางเลือกให้เกษตรกรในพื้นที่ที่มีการระบาด
"โรคใบด่างมันสำปะหลัง" เกิดจากเชื้อสาเหตุ Sri-Lankan Cassava Mosaic Virus มีรายงานการระบาดครั้งแรก เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2562 พื้นที่ 45,400 ไร่ ใน 11 จังหวัด เนื่องจากเชื้อสาเหตุสามารถติดไปกับท่อนพันธุ์มันสำปะหลังได้จึงแพร่กระจายเมื่อนำท่อนพันธุ์ที่เป็นโรคไปปลูกต่อ
ประกอบกับประเทศไทยมีแมลงพาหะ คือ แมลงหวี่ขาวยาสูบจึงทำให้การการระบาดแพร่ขยายเป็นวงกว้าง ในปีการเพาะปลูก 2564/65 พบรายงานการระบาดสูงสุด (ข้อมูล ณ วันที่ 2 กันยายน 2564) ประมาณ 328,533 ไร่ โดยจังหวัดที่มีการระบาดสูงสุด 3 อันดับแรก คือ นครราชสีมา สระแก้ว และ บุรีรัมย์