โครงการ คนละครึ่ง ถือเป็นหนึ่งในมาตรการลดค่าครองชีพ และกระตุ้นค่าใช้จ่ายของรัฐบาลที่ได้รับความนิยมจากประชาชน แม้ว่าตอนนี้คนละครึ่ง เฟส 4 กำลังจะสิ้นสุดโครงการในวันที่ 30 เม.ย. 2565 แต่โครงการคนละครึ่ง เฟส 5 ณ ปัจจุบัน ก็ยังไม่มีความชัดเจนออกมา
แม้ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ออกมายอมรับว่า โครงการ คนละครึ่ง เป็นหนึ่งในโครงการที่ประชาชนตอบรับเป็นอย่างดี และตอนนี้ได้ให้แนวทางไปดูแล้ว แต่ปัญหาตอนนี้คือเรื่องของเงินที่จะเอามาใช้จากไหน เพราะโครงการนี้ก็ใช้เงินเยอะพอสมควร
ขณะที่ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุถึงเรื่องคนละครึ่ง เฟส 5 ต้องดูว่ามีความจำเป็นหรือไม่ เพราะเป็นมาตรการที่ใช้งบประมาณสูง และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้แค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น
โดยกรณีที่นายกรัฐมนตรี บอกออกมาก่อนหน้านั้น อาจเป็นการเข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะจากที่มีการหารือ นายกรัฐมนตรี ได้ขอให้กระทรวงการคลังไปพิจารณาแหล่งเงิน เพื่อนำมาใช้จ่ายในโครงการที่มีความจำเป็นก่อน
สำหรับโครงการคนละครึ่ง ซึ่งเริ่มต้นมาตั้งเดือนก.ย. 2563 ถึงปัจจุบัน ดำเนินโครงการมาแล้วรวม 4 ครั้งด้วยกัน โดย "ฐานเศรษฐกิจ" รวบรวมข้อมูลพบว่า ได้ใช้วงเงินกู้ตามพ.ร.ก.กู้เงินฯ ทั้ง 2 ฉบับ วงเงินรวม 1.5 ล้านล้านไปแล้ว คิดเป็นกรอบวงเงินประมาณ 2.22 แสนล้านบาท โดยมีข้อมูล ดังนี้
คนละครึ่ง เฟส 1
คนละครึ่ง เฟส 2
คนละครึ่ง เฟส 3
รอบแรก
รอบเพิ่มเติม
คนละครึ่ง เฟส 4
ส่วนในการดำเนินการโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 แน่นอนว่า หากรัฐบาลตัดสินใจทำอีกครั้งอาจต้องใช้เงินไม่น้อยไปกว่า เฟส 4 แต่ก็ขึ้นอยู่กับวงเงินของการใช้จ่ายในโครงการว่า จะได้รับการอนุมัติวงเงินให้คนละเท่าไหร่ เพราะถ้าเทียบเคียงกับ เฟส 4 แล้ว อาจต้องใช้เงินสูงถึง 3.4 หมื่นล้านบาท
ขณะที่กรอบวงเงินตาม พ.ร.ก.กู้เงินฯ เพิ่มเติม 5 แสนล้านบาท ปัจจุบันมีวงเงินอยู่จำกัดซึ่งข้อมูลล่าสุดของกรอบวงเงินตามพ.ร.ก.กู้เงินดังกล่าว พบว่า มีวงเงินด้วยกัน ดังนี้ (อัพเดท 11 เม.ย. 2565)
นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ยอมรับก่อนหน้านร้ว่า ในส่วนของการบริหารเงินที่เหลือภายใต้กรอบเงินกู้นี้ จะใช้สำหรับการประคับประคองสถานการณ์เป็นส่วนใหญ่ และต้องใช้จ่ายเงินอย่างระมัดระวัง โดยจะต้องใช้ในโครงการที่จำเป็นในการฟื้นเศรษฐกิจ อีกส่วนหนึ่งก็คงต้องกันเอาไว้เพื่อรองรับกรณีฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นอีกด้วย