ชาวสวนก็โวย"ปาล์มแพง"แต่ไม่รวยขึ้น เหตุผลผลิตลด-ปุ๋ยแพง

นายสิทธิพร จริยพงศ์ รองประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ และประธานสภาเกษตรกรจังหวัดสุราษฎร์ธานี  เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงสถานการณ์ราคาและผลผลิตปาล์มน้ำมันในขณะนี้ว่า ผลผลิตรวมในขณะนี้ยังไม่ได้เพิ่มขึ้น  ซึ่งปกติในช่วงเดือน พ.ค.-ส.ค. ถือว่าเป็นช่วงพีคของปาล์ม ที่จะเริ่มทยอยออก แต่ปีนี้ไม่มี เมื่อเทียบกับปริมาณการตัดต่อครั้งได้น้อยกว่าครั้งก่อน ส่วนราคาก็ทรงตัวอยู่ที่ 10.85 บาทต่อกิโลกรัม

 

โดยปัจจัยที่ทำให้ผลผลิตปาล์มปีนี้ไม่เพิ่มขึ้น มาจากอุณภูมิที่เปลี่ยนแปลง ความร้อนเพิ่มขึ้น จากอุณภูมิที่ 31-32 องศาเซลเซียส ปัจจุบันขยับเป็น 38 องศาเซลเซียส ภาวะอากาศร้อนดังกล่าวเกิดมาประมาณ  1-2 ปี ทำให้ปาล์มน้ำมันต้องปรับ และมีผลกระทบต่อผลผลิตปาล์มลดลงในปีนี้  ซึ่งปกติปาล์มจะทยอยออก หรือที่เรียกว่า แทงนก 3 ชั้น แต่ปีนี้ไม่มีมีแค่ชั้นเดียว

นายสิทธิพร กล่าวอีกว่า ทำให้แนวโน้มราคาปาล์มในปีนี้ ราคายังทรงตัวที่สูงต่อไป เนื่องจากปริมาณผลผลิตที่น้อยและราคาตลาดโลกยังดีอยู่  แต่ในสถานที่ราคาปาล์มที่สูงนี้ เกษตรกรเองก็ไม่ได้ประโยชน์จากสถานการณ์ดังกล่าวมากนัก เนื่องจากผลผลิตปาล์มที่ลดลงประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ และต้นทุนการผลิตคือราคาปุ๋ยที่ปรับตัวสูงต่อเนื่อง

 

สภาพดังกล่าวจะทำให้เกิดปัญหากับเกษตรกรรายย่อย 20-30 ไร่ อาจจะไม่สามารถใส่ปุ๋ยได้ จะมีผลกับผลผลิตในอีก1-2 ปี ข้างหน้าที่ลดลงอีก หากเป็นช่วงปกติที่ผลผลิตปาล์มปกติ และราคาปาล์มสูงขนาดนี้ จะถือว่าเป็นปีทองของเกษตรกร แต่ปีนี้ผลผลิตมันไม่มี เกษตรกรจึงไม่ได้ประโยชน์เท่าที่ควรจะได้ 

“ต้องรอประเมินในช่วงเดือนสิงหาคมอีกครั้ง ว่าสถานการณ์ในช่วงนั้นว่าเป็นอย่างไร แต่หากมองแนวโน้มตลอดทั้งปีเชื่อว่าผลผลิตปาล์มปีนี้จะน้อยกว่าปีที่ผ่านมา” 

 

รองประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ และประธานสภาเกษตรกรจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวอีกว่า ฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องปุ๋ย เพราะว่าปัญหาที่เกิดขึ้นปัจจุบันไม่เฉพาะแค่ราคาแพงอย่างเดียว แต่การหาซื้อปุ๋ยก็ค่อนข้างยาก ต้องมีการสั่งล่วงหน้า ซึ่งไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น มีการกักตุนหรืออย่างไร 

นายสุทิศ พงษ์จีน ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดสงขลา ในฐานะที่เป็นเจ้าของสวนปาล์มน้ำมัน อ.ควนเนียง จ.สงขลา ที่มองว่าราคาปาล์มสูงกว่า 10 บาทต่อกิโลกรัมเกษตรกรน่าจะได้ประโยชน์   แต่ความเป็นจริงราคาปาล์มที่สูงในปัจจุบันเกษตรกรแทบไม่ได้ประโยขน์ หรือรายได้เพิ่มจากช่วงราคาปาล์มกิโลกรัมละ4 บาท แต่อย่างใด ตรงข้ามกลับมีรายได้ลดลงด้วยซ้ำ

 

นายสุทิศ กล่าวและว่า สาเหตุที่ทำให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มไม่ได้ประโยชน์จากราคาปาล์ที่สูงในปัจจุบันนั้น มาจาก 2 สาเหตุด้วยกัน  ประการแรกคือ ผลผลิตที่ลดลงจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ทำให้ผลผลิตปาล์มลดลง ล่าสุดตัดปาล์มได้ 500 กิโลกรัม จากปกติเคยตัดได้ 2,000 กิโลกรัม

 

“คิดง่าย ๆ เมื่อก่อนตัดปาล์มได้ 2,000 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 4 บาท ได้เงิน 8,000 บาทวันนี้ตัดปาล์มได้ 500 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 10 บาท ได้เงิน 5,000 บาท”

 

ประการที่สอง ราคาปุ๋ยที่แพงกระสอบละ 1,500 บาท  ซึ่งเป็นต้นที่สูงมากสำหรับเกษตรกร อย่างที่สวนจะใส่ปุ๋ย 3 เดือนต่อครั้ง ๆ ละ 10 กระสอบ จากเดิมกระสอบละ 700 บาท

 

“ใส่ปุ๋ยครั้งละ 10 กระสอบเป็นเงิน 15,000 บาทต่อครั้ง (3 เดือน) เราจะตัดปาล์มจำนวน 6 ครั้งในรอบ 3 เดือน ได้เงินครั้งละ 5,000 บาท ยังไม่รวมค่าจ้างตัดและค่าจ้างใส่ปุ๋ย สรุปแล้วเกษตรกรแทบไม่ได้อะไรเลย”

 

ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดสงขลา กล่าวอีกว่า ปัจจุบันปัญหาปุ๋ยไม่ได้มีปัญหาแค่ราคาแพงเพียงอย่างเดียว แต่ค่อนข้างจะหาซื้อได้ยากขึ้น  ซึ่งไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น