28 เมษายน 2565 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า อดีต รมว.คลัง กล่าวถึงกรณีรัฐบาลอินโดนีเซีย ประกาศระงับส่งออกปาล์มน้ำมัน โดยระบุว่า อินโดนีเซีย เป็นผู้ผลิตและผู้ส่งออกปาล์มน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลก การประกาศระงับการส่งออกครั้งนี้ เพื่อกดราคาน้ำมันปาล์มที่ประชาชนชาวอินโดบริโภค ซึ่งความจริงแล้วน้ำมันไม่ได้ขาดตลาด ส่งผลให้ราคาน้ำมันปาล์มในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้น
ส่วนไทยเรานั้นเป็นทั้งผู้ผลิต ผู้ส่งออก และผู้บริโภค ราคาที่สูงขึ้นเป็นข่าวดีสำหรับเกษตรกร แต่ไม่ดีสำหรับผู้บริโภค ในสภาวะที่ประชาชนเดือดร้อนอยู่แล้วจากภาวะของแพง รัฐบาลต้องเตรียมรับมือ
อดีต รมว. คลัง กล่าวอีกว่า ด้วยสถานการณ์พิเศษนี้ ที่น้ำมันจากดอกทานตะวันขาดตลาดเพราะยูเครนเลิกผลิต บวกกับอินโดนีเซียระงับการส่งออกน้ำมันปาล์ม เราเจอสองเด้งนี้ราคาน้ำมันปาล์มมีแต่ขึ้น ผู้เชี่ยวชาญได้คำนวณให้ผมเห็นว่า ตามราคาต้นทุนน้ำมันดิบในปัจจุบัน ราคาน้ำมันขวดควรต้องอยู่ที่ประมาณลิตรละ 75 บาท (ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 64 บาท) ซึ่งที่ผู้ผลิตยังอยู่ได้เพราะสต๊อกปาล์มน้ำมันในราคาเดิมยังมีอยู่ และเพราะสะสมกำไรมาพอควรในอดีต
หากสถานการณ์ในยูเครนและอินโดฯ ปรับกลับสู่ปกติโดยเร็วก็จะไม่มีปัญหาแต่ถ้ายืดเยื้อหรือเลวร้ายลง บวกกับปริมาณน้ำมันถั่วเหลืองต่ำกว่าที่คาดการณ์ รัฐบาลอาจต้องเข้ามาแทรกแซงเพื่อช่วยเหลือผู้บริโภค
“วิธีหนึ่งที่ทำได้คือใช้งบประมาณที่สำรองไว้เพื่อประกันราคาปาล์มน้ำมันให้เกษตรกร ซึ่งประกันไว้ที่กิโลละ 4 บาท ดังนั้นตอนนี้ไม่ต้องใช้งบส่วนนี้แน่นอน จึงสามารถนำงบส่วนนี้มาชดเชยราคาน้ำมันขวดเพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคให้มีภาระน้อยลงการปล่อยให้ราคาน้ำมันปาล์มสูงเกินไป
นอกจากเป็นภาระต่อประชาชนแล้ว ยังเสี่ยงเป็นภัยต่อสุขภาพประชากร เพราะจะเกิดการใชันํ้ามันทอดอาหารซํ้าหลายรอบ เวลานี้ต้องบอกว่า สถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตลอดเวลา ทำให้การบริหารเศรษฐกิจช่วงนี้ห้ามกระพริบตาครับ” นายกรณ์ กล่าว