สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้มีการจัดทำผลการวิเคราะห์ข้อมูลบัญชีกระแสการโอนประชาชาติ (National Transfer Account: NTA) ล่าสุด พบข้อมูลว่า หากวัยแรงงานต้องการวางแผนเกษียณ หรือต้องการจะอยู่ได้จนถึงอายุ 90 ปี จะต้องมีค่าใช้จ่าย 3.1 ล้านบาท (ไม่รวมค่าใช้จ่ายที่รัฐสนับสนุน)
ทั้งนี้จากข้อมูลการวิเคราะห์ NTA ยังพบด้วยว่า หากวัยแรงงานหากต้องการมีลูก หรือเลี้ยงดูเด็กให้เติบโตจนถึงอายุ 21 ปี หรือตั้งแต่เกิดจนกระทั่งเข้าสู่ตลาดแรงงานจะต้องมีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 1.5 ล้านบาท (หักค่าใช้จ่ายที่รัฐสนับสนุน)
พร้อมกันนี้ หากวัยแรงงาน อาศัยอยู่ร่วมกับเด็ก 1 คน และผู้สูงอายุ 1 คน โดยที่เด็กและผู้สูงอายุไม่สามารถหารายได้ได้เลย แรงงานคนดังกล่าวจะต้องหารายได้เบ็ดเสร็จรวมแล้วถึง 7.7 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการบริโภคของเด็ก ผู้สูงอายุ และการวางแผนเกษียณอายุของตนเอง
ขณะเดียวกันจากผลการวิเคราะห์ข้อมูล NTA ซึ่งเก็บตัวเลขล่าสุดในปี 2562 ก่อนเกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังพบว่า คนไทยมีรายได้จากการทำงานต่ำกว่าการบริโภคที่เกิดขึ้นตลอดช่วงวัย (การขาดดุลรายได้) คิดเป็นมูลค่าถึง 2.04 ล้านล้านบาท หรือ โดยเฉลี่ยคนไทยหารายได้ได้น้อยกว่าค่าใช้จ่ายประมาณ 3 หมื่นบาทต่อคนต่อปี
โดยผู้ที่มีรายได้ไม่เพียงพอ จะใช้รายได้จากทรัพย์สินที่เก็บสะสมไว้ และเงินโอนจากบุคคลและรัฐ มาชดเชยความไม่เพียงพอที่เกิดขึ้น ซึ่งหากโครงสร้างประชากรเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์และสุดยอดในปี 2566
ส่งผลให้การขาดดุลรายได้ในภาพรวมของประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.16 ล้านล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2576 อยู่ที่ระดับ 2.57 ล้านล้านบาท ทำให้คนไทยต้องหารายได้จากแหล่งอื่นมาชดเชยการขาดดุลที่เพิ่มขึ้นในอนาคต
เพื่อให้ไม่เกิดปัญหาดังกล่าว จึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการมีหลักประกันรายได้ หรือการส่งเสริมการออมตั้งแต่ปัจจุบัน ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาสถานการณ์การออมในปัจจุบัน พบว่า มูลค่าการออมของคนไทยยังอยู่ในระดับต่ำ โดยปี 2562 คนไทยมีเงินออมเฉลี่ยที่ 133,256 บาทต่อครัวเรือน
อีกทั้งเกิน 1 ใน 5 ของครัวเรือนนำเงินออมมาใช้จ่ายได้ไม่เกิน 3 เดือนซึ่งหากพฤติกรรมการออม และการมีหลักประกันด้านรายได้ยังไม่เปลี่ยนแปลง จะทำให้การขาดดุลรายได้ที่เพิ่มขึ้น และอาจเป็นภาระของรัฐที่ต้องแบกรับภาระดังกล่าวในอนาคต
อย่างไรก็ตาม สศช. มีข้อเสนอเป็นประเด็นที่ต้องดำเนินการเพื่อรับมือกับผลกระทบ โดยการเพิ่มรายได้เป็นสิ่งสำคัญที่จะบรรเทาการขาดดุลรายได้ และอาจช่วยยกระดับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยการยกระดับรายได้ต้องให้ความสำคัญตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยสูงอายุ ดังนี้