"อีอีซี" โยนเผือกร้อนธนารักษ์! ปัดไม่มีเอี่ยวโครงการท่อส่งน้ำภาคตะวันออก

05 พ.ค. 2565 | 12:21 น.
อัปเดตล่าสุด :05 พ.ค. 2565 | 19:21 น.

"อีอีซี" โยนเผือกร้อนธนารักษ์ ปัดไม่มีเอี่ยวโครงการท่อส่งน้ำภาคตะวันออก ชี้เป็นตามภารกิจและภายใต้อำนาจของ กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ในฐานะผู้ดูแลทรัพย์สินของรัฐ

สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.)  ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีที่มีข่าวเกี่ยวกับ การประมูลท่อส่งน้ำ โครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก โดยระบุว่า เป็นการดำเนินการตามภารกิจและภายใต้อำนาจของ กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ในฐานะผู้ดูแลทรัพย์สินของรัฐ 

ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ซึ่งมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการ ขั้นตอน หรือการตัดสินใดๆ ต่อการประมูลโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก แต่ประการใด 

สำหรับที่ผ่านมา สาระสำคัญของการคัดเลือกเอกชนเพื่อบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก พอสรุปได้ดังนี้ 

1.การพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออก (ESB) คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2535 และวันที่ 12 กันยายน 2535 อนุมัติให้การประปาส่วนภูมิภาค จัดตั้งบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (East Water) เพื่อเป็นองค์กรหลักในการรับผิดชอบการพัฒนาและดำเนินการดูแลระบบท่อส่งน้ำดิบสายหลักในพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออก 

 

โดยกระทรวงการคลังเป็นผู้ประสานงานให้บริษัทฯ เช่า/บริหารทรัพย์สินจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ปัจจุบันท่อส่งน้ำสายหลักนี้ จะหมดสัญญาวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ประกอบด้วย 

 

  • โครงการท่อส่งน้ำดอกกราย 
  • โครงการหนองปลาไหล - หนองค้อ 
  • โครงการหนองค้อ-แหลมฉบัง (ระยะที่ 2) 
     

2. เมื่อหมดสัญญาทรัพย์สินดังกล่าวกลับมาอยู่ภายใต้การดูแลของกรมธนารักษ์ ดังนั้น ก่อนหมดสัญญา กรมธนารักษ์ จึงดำเนินการเพื่อสรรหาเอกชนมาบริหาร 

 

และดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำดิบสายหลักภาคตะวันออกต่อไป ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการสรรหาเอกชน