ของแพง ค่าครองชีพแพง สวนทางกับรายได้ของประชาชนที่ยังเท่าเดิม หลายคนต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าเงินในกระเป๋าเท่าเดิมแต่ข้าวของที่ซื้กลับแพงขึ้นทุกวัน ทั้งนี้ค่าของเงินในกระเป๋าที่เรามีอยู่เท่าเดิมแต่ของราค้าและบริการเพิ่มขึ้น นั่นหมายความว่า อำนาจในการจับจ่ายใช้สอยลดลง
กระทรวงพาณิชย์ได้มีการจัดทำดัชนีราคาผู้บริโภค หรือเงินเฟ้อทั่วไปเพื่อวัดอุณภูมิทางเศรษฐกิจโดยรวม เพราะยิ่งค่าเงินเฟ้อ สูงก็แสดงว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีมาก หมายความว่ารายได้อีกฝากนึงของกระเป๋าเงินก็เข้ามาได้มากและแน่นอนก็จ่ายมากตามไปด้วย ดังนั้น การดูแลเงินเฟ้อไม่ให้สูงไป หรือต่ำไป จนเป็นเงินฝืด คือ ค่าเงินเฟ้อติดลบเกิน 6 เดือนนั้น เป็นสิ่งจำเป็น
สาเหตุหลักๆที่ดันให้เงินเฟ้อสูงขึ้น คือราคาน้ำมันที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และการเลิกตรึงราคาดีเซล ที่ปล่อยให้ขึ้นแบบขั้นบันได จะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการขนส่งและการผลิตสินค้า และยังมีการสูงขึ้นของก๊าซหุงต้ม รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะอาหารสดและอาหารสำเร็จรูป ที่ยังมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นตามต้นทุนการผลิตและวัตถุดิบ
และยังมีผลกระทบจากราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์โลก มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และพันธมิตร และการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงความไม่แน่นอนของสภาพอากาศ ยังคงเป็นปัจจัยที่จะส่งผลให้เงินเฟ้อของประเทศสูงขึ้นได้ในระยะต่อไป ซึ่งจะต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
ส่งผลให้ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือนเม.ย.2565 เท่ากับ 105.15 เทียบกับมี.ค.2565 เพิ่มขึ้น 0.34% เทียบกับเดือนเม.ย.2564 เพิ่มขึ้น 4.65และส่งผลให้4 เดือนปี 2565 (ม.ค.-เม.ย.) เพิ่มขึ้น 4.71%
เรามาดูกันว่า ใน1 เดือน ประชาชนจ่ายเงินไปกับอะไรบ้างในยุคข้าวยากหมากแพงเช่นนี้ โดยพบว่า 59.28% เป็นการซื้อสินค้าที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮออล์ เช่น ค่าโดยสารรถสาธารณะ ค่าซื้อยานพาหนะ สูงถึง23.94% ซื้อเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มและรองเท้า 2.12% จ่ายค่าเช่าบ้าน วัสดุก่อสร้าง 22.17% จ่ายค่าแพทย์ ค่ายา 5.45% ค่าหนังสือค่าเล่าเรียน 4/24% และ 1.35%จ่ายเงินไปกับค่าบุหรี่ เหล้าเบียร์ เป็นต้น
และอีก40.72% เป็นการซื้ออาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮออล์การบริโภคของครัวเรือน เช่น ค่าอาหารนอกบ้าน 6.85% ค่าเครื่องปรุงอาหาร2/17% เนื้อสัตว์ 9.43% ผักและผลไม้ 5.20% ไข่ไก่และผลิตภัณฑ์นม 2.11% ข้าว แป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง 3.65% กินข้าวนอกบ้าน 8.89% เป็นต้น
ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ประเมินค่าใช้จ่ายครัวเรือนเดือนเม.ย.65 มีรายจ่ายรายเดือนที่แต่ละครัวเรือนต้องจ่ายคือ 17,681บาท แบ่งเป็น