นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เดือนเมษายน 2565 คณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ได้อนุญาตให้คนต่างด้าวเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย จำนวน 50 ราย โดยเป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว
และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว แบ่งเป็น ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ จำนวน 20 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจ จำนวน 30 ราย โดยมีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 9,997 ล้านบาท
ส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติจากประเทศสิงคโปร์ ญี่ปุ่น และฮ่องกง ซึ่งมีการนำเงินเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจกว่า 418 ล้านบาท ส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานคนไทย 592 คน รวมถึง มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุน และลงทุนผ่านการขอหนังสือรับรองประกอบธุรกิจฯ จำนวน 9,579 ล้านบาท
สำหรับเดือนเมษายน 2565 ธุรกิจที่ได้รับอนุญาตส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐ อันจะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย อาทิ กิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) โดยเป็นผู้ให้บริการระบบฝากซื้อขายสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน บริการให้ใช้ช่วงสิทธิในการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ (Software) ด้านการธนาคาร
ด้านการเงิน และด้านการประกันภัย บริการทางวิศวกรรมและเทคนิค เช่น การให้คำปรึกษาเชิงเทคนิคแบบครบวงจรในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ การช่วยเหลือด้านการออกแบบ การพัฒนา และทดสอบระบบ เป็นต้น บริการรับจ้างผลิตเฟอร์นิเจอร์ ชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น
ส่วนการลงทุนในพื้นที่ EEC ของนักลงทุนต่างชาติ ในเดือนเมษายน 2565 นี้ นักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวน 15 ราย คิดเป็นร้อยละ 30 ของจำนวนนักลงทุนทั้งหมดในเดือนนี้ โดยมีเงินลงทุนในพื้นที่ EEC กว่า 2,666 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 27 ของเงินลงทุนทั้งหมด ทั้งนี้ เป็นนักลงทุนจากญี่ปุ่น 7 ราย ลงทุน 1,057 ล้านบาท สหรัฐอเมริกา 2 ราย ลงทุน 356 ล้านบาท และ สิงคโปร์ 1 ราย ลงทุน 121 ล้านบาท ธุรกิจที่ลงทุน
อาทิ 1) บริการตรวจสอบและวิเคราะห์สภาพการทำงานของเครื่องจักรชนิดหมุน โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Services) ด้วยระบบคลาวด์ (Cloud) และเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ (Sensor Technology) 2) บริการรับจ้างตัดเหล็กเคลือบเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตกระป๋องบรรจุอาหารและเครื่องดื่ม และ 3) บริการรับจ้างผลิตเฟอร์นิเจอร์ ชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น